ย่างก้าวเข้างาน Aquarama… ไปดู Arowana ฟาร์มปลามังกรกัน
วันที่สองของการมาเยือนสิงคโปร์ วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเลย (แต่ไมได้ตื่นเองนะครับ ไกด์เป็นคนโทรปลุก) ประมาณ 7 โมงเห็นจะได้ ตื่นเสร็จก็เข้าคิวกันล้างหน้า ล้างตา แปรงฟัน อาบน้ำชำระร่างกายแล้วแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยเพราะวันนี้ต้องไปงาน Aquarama (เป็นกฏบังคับว่าวัน Trade Show การเข้างานต้องแต่งตัวอย่างสุภาพ) หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารในโรงแรม เรียบร้อยแล้วก็รวมพลแล้วออกเดินทางไปที่ Expo ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานทันที จากที่พักไปถึง Expo ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ซึ่งถือว่าไม่นานนัก (Expo อยู่ใกล้กับสนามบินชางฮี) พอไปถึงยังไม่สามารถเข้าชมงานได้เลย จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนหน้างานก่อน และเพราะวันที่ผมเข้าไปเป็นการแสดงงานวันแรกดังนั้นผู้คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ และผู้คนที่ผมว่านั่นไม่ใช่บุคคลทั่วไปนะครับ ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการปลาสวยงามไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ร้านขายปลา ร้านขายอุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศ เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัตินี้เท่านั้นจึงจะมีสิทธิลงทะเบียนเข้าไปชมงานได้ ส่วนคนนอกยังไม่สามารถเข้าชมได้วันนี้ อ้าว ! แล้วเราเป็นใครกันล่ะ ? นักท่องเที่ยวธรรมดาๆ อย่างเราจะสามารถเข้าชมงานได้มั้ยนี่ ?…
กลุ่มผมยืนงงทำอะไรไม่ถูกอยู่นาน… โชคดีที่มาเจอเจ้าของร้านขายปลาที่รู้จักกัน เลยขอใช้ชื่อเขาติดป้ายร่วมเพื่อไปลงทะเบียนเข้างาน แต่ในขณะที่กำลังกรอกเอกสารอยู่นั่น ไกด์ก็มาบอกว่าไม่มีปัญหาแล้ว เดี๋ยวทางเขาจะเป็นผู้จัดการเอง ให้ลูกทีมยืนรออย่างเดียวพอ ไกด์หายไปนานประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง (รอไปก็บ่นไปเพราะอยากจะเข้าไปดูใจจะขาดแล้ว) ก็โผล่มาพร้อมป้ายทะเบียนและกระเป๋าหิ้ว เท่านี้ก็เป็นอันพร้อมสำหรับการเข้าชมงาน Aquarama ตามที่ตั้งใจแล้วล่ะครับ ผมกับ 2 เพื่อนคนสนิทไม่รอช้ารีบเข้าไปทันที
เดินผ่านประตูเข้าไป บู๊ทแรกที่เจอเลยก็คือบู๊ทของบริษัท Qien Hu ซึ่งวันนี้ไม่ได้มาแค่มาเสนอผลิตภัณฑ์อาหาร และอุปกรณ์พิเศษเกี่ยวกับปลาสวยงามอย่างเดียว แต่มีปลาสวยงามชนิดต่างๆ มาโชว์ด้วย ทั้งปลาเล็กปลาน้อย รวมถึงปลามังกร ปลามังกรที่ว่าก็เจ้าตัวนี้แหละครับ ดูจากโทนสีแล้วผมมองว่าน่าจะเป็นลูกครึ่งทองมาเลย์กับปลาแดงนะครับ (หรือที่เรียกว่า Red Splendor) ปลาตัวที่เอามาโชวนี้เรียกว่าตัวไม่เล็กแล้ว น่าจะประมาณซัก 10” แต่ว่าถูกเลี้ยงให้อยู่ในตู้ขนาด 24” เท่านั้น (ตู้อาจจะดูสูงหน่อยแต่ก็ไมได้มีผลดีอะไร) จากสภาพโดยรวมของตัวปลาและลักษณะการว่ายแล้วดูออกเลยว่าไม่สู้ดีนัก ปลาว่ายเนือยๆ เอื่อยๆ ไม่มีแรง ไม่มีอารมณ์ ดูแล้วไม่สง่างามเอาเสียเลย… สำหรับที่บู๊ทของฟาร์ม Qien Hu สิ่งที่ผมชอบใจมากที่สุดไม่ใช่ปลามังกรนะครับ แต่เป็น Tank Mate ของปลามังกรมากกว่า เห็นมั้ยครับ.. เจ้าอินซีเน็ทนั่นไง ? มีตั้ง 4 ตัว น่าอิจฉาจัง เพราะอินซีเน็ทที่บ้านเราตอนนี้หาไม่มีเลย
ที่ตรงข้ามกับบู๊ทของ Qien Hu ก็มีฟาร์มปลามังกรเจ้าใหญ่อีกรายมาแสดงด้วยนั่นก็คือ Dragon Fish Industry (DFI) ซึ่งในงานเปิดตัววันนี้เถ้าแก่ใหญ่ลงทุนมาต้อนรับลูกค้าด้วยตัวเองเลยนะครับ ทีเด็ดของ DFI ก็คือมีเปิดตัวปลามังกรสายพันธุ์ใหม่ รุ่นพิเศษ ที่เพิ่งจะทำได้นั่นก็คือ Sapphire Gold Cross Back Golden (แปลเป็นไทยได้ว่า “ปลามังกรทองมาเลย์เหลือบเกล็ดนิลสีคราม”) ซึ่งเป็นหนึ่งในชื่ออันสุดหรูที่ผมได้ยินมาเลยทีเดียว แล้วปลาตัวนี้ยังแบ่งออกเป็น 2 เกรดอีกด้วยก็คือ Golden Head AAA+ (มี 1 ตัว) และ Golden Head AA+ (มี 5 ตัว)
สำหรับปลาเกรด AAA+ ลักษณะพิเศษที่ว่าก็คือเกล็ดเปิดสูงตั้งแต่เล็ก (เกือบจะข้ามหลังแล้ว) แถมยังเงางามเป็นประกาย นอจากนี้โทนสีของเกล็ดยังเป็นสีน้ำเงินอีกด้วย (หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามของ Blue Base ไงล่ะครับ) ส่วนที่ว่าเป็น Golden Head นั้นเท่าที่สังเกตก็ยังเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก เกรดพิเศษที่เห็นมีเพียงตัวเดียวนั้นราคาที่เสนอขายอยู่ที่ 15,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือราวๆ 345,000 บาท !!! (เทียบที่อัตรา 1 เหรียญต่อ 23 บาท) ส่วนเกรดรองลองลงมา Golden Head AA+ ความสวยงามต่างกันไม่มากเท่าไหร่แต่ราคาแตกต่างกันมากเลยทีเดียวก็คือ 12,000 เหรียญ หรือประมาณ 276,000 บาท… ฟังราคาแล้วก็เสียวจนเข็ดฟัน
ได้แต่ยื่นอยู่ห่างๆ เพราะกลัวไปทำปลาเขาตกใจ ถ้าปลามีปัญหาเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่
ที่ตู้ใกล้ๆ กันก็มีปลาทองมาเลย์เกรดรองลงมาอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ยังถือเป็นเกรดพิเศษอยู่นั่นก็คือ Royal Blue Cross Back Golden (ปลามังกรทองมาเลย์เหลือบเกล็ดสีฟ้าสด)… ฮั่นแน่ ! ชื่อไพเราะเพราะพริ๊งอีกแล้ว คราวนี้มีเกรดเดียวก็คือ AA แต่ไม่ได้ถามราคามาด้วย (ถามมากๆ แล้วไม่มีการติดต่อซื้อขายเกรงว่าจะไม่ดีครับ) ถ้าถามผมว่าปลาเกรดนี้สวยมั้ย ? ผมว่าสวยนะ เพียงแต่ถ้าเอาไปเทียบกับ Sapphire ตัวพิเศษสุดก่อนหน้านี้แล้วคงเทียบกันไม่ได้ ความเป็นสีน้ำเงินในเนื้อเกล็ดห่างชั้นกันมาก
ทีเด็ดช๊อทสุดท้ายของ DFI ก็คือ Rose Gold Cross Back Golden (ปลามังกรทองมาเลย์เหลือบสีกุหลาบแดง) แล้วก็มีวงเล็บว่า Red & Xback Gold Crossbreed บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นลูกครึ่งระหว่างปลาแดงกับทองมาเลย์ แต่ก็อย่างที่ได้กล่าวให้ทราบแล้วว่าถ้าเป็นบ้านเราลูกครึ่งสายนี้จะเรียกว่า Red Splendor แต่ของที่นี่เรียกว่า Rose Gold (น่าสงสัยว่าอย่างลูกครึ่งทองมาเลย์ + ทองอินโด บ้านเราเรียก Hiback แล้วที่นี่มีชื่อเรียกแปลกๆ อื่นๆ อีกรึเปล่า ?) Rose Gold ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้ายังดูไม่ออกว่าเป็นลูกครึ่งเท่าไหร่นักเพราะว่ายังเล็กมาก แค่เพียง 4” เท่านั้นเอง แต่ดูจากลักษณะรูปทรงของตัวปลาแล้ว ในสายตาผมๆ มองว่าปลาชุดนี้อนาคตก็ไม่เท่าไหร่ครับ
เดินออกจาก DFI แล้วก็ตรงดิ่งไปฟาร์ม Rainbow ที่ตั้งอยู่ถัดไป ฟาร์มนี้ก็เป็นอีกฟาร์มที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการปลาสวยงามของสิงคโปร์ ปัจจุบันนี้ลักษณะกิจการคล้ายกับของ Qien Hu ครับคือไม่ได้ทำปลามังกรอย่างเดียว แต่มีปลาสวยงามชนิดอื่นอีกด้วย ตัวอย่างเช่นปลาปอมปาดัวร์ นอกจากนี้ยังมีวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามานำเสนออีกด้วย แต่ผมไม่ขอพูดถึงนะครับเอาเฉพาะปลามังกรดีกว่า ปลามังกรที่ Rainbow เอามาโชว์ไม่ได้เอามาเพียงตัวเดียว แต่มาเป็นสิบ แล้วก็ไม่ได้แยกตู้เลี้ยงเหมือนที่อื่นๆ แต่เลี้ยงรวมกันไปเลย ดูแล้วเร้าใจน่าดูเพราะไม่ใช่ปลาธรรมดาพื้นๆ ด้วย แต่เป็นปลาแดง Super Red (ส่วนจะเป็นเกรดไหนไม่ทราบจริงๆ ครับเพราะไม่ได้ให้รายละเอียดไว้) สำหรับปลาแดงของ Rainbow ชุดโชว์นี้โดยส่วนตัวผมมองว่าใช้ได้เลยทีเดียว ขนาดเลี้ยงในตู้ใส สภาพแวดล้อมสว่างๆ แบบนี้ยังเห็นเป็นสีแดงได้อย่างชัดเจนทั้งเครื่องครีบ แก้ม และปาก รวมถึงยังมีเหลือบสีเกล็ดที่ออกเป็นสีม่วงอีกด้วย ปลาลักษณะแบบนี้แหละครับที่อนาคตจะมีโอกาสแดงได้ชัดเจนกว่า นอกจากนี้ปลาโดยรวมยังหุ่นดี เครื่องครีบใหญ่ดูสมส่วนกันถ้วนหน้าอีกด้วย
รอบหน้าพบกับปลาจากฟาร์ม Panda และ Imperial Palace นะครับ