เมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้วมีเพื่อนสมาชิก 2 ท่าน ต้องการความช่วยเหลือให้ NC. ช่วยทำศัลยกรรมให้ โดยเคสหนึ่งเป็นทองมาเลย์ที่มีปัญหาเรื่องเหงือก (เหงือกพับ) และอีกเคสหนึ่งเป็นปลาแดง 2 ตัวๆ แรก “ปลายหนวดงอ” และตัวที่ 2 “เกล็ดบิ่น” แต่ด้วย NC. มีภารกิจหลักที่ต้องทำงานประจำ รวมถึงงานเขียนในเวบไซท์ทำให้ไม่ค่อยได้ไปไหนได้ไกลเท่าไหร่ แล้วรอบนี้เพื่อนสมาชิกอยู่ไกลถึงเมืองเหนือ => ท่านหนึ่งอยู่เชียงใหม่ ส่วนอีกท่านหนึ่งอยู่แม่สะเรียง (จ.แม่ฮ่องสอน) โอกาสจะได้ไปเยือนจึงค่อนข้างมีน้อยเต็มทน
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เพื่อนสมาชิกให้ความไว้วางใจในการทำศัลยกรรม ประกอบกับท่านหนึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกที่รู้จักกันมานาน (คุณเอ็ด Zambaaa) ส่วนอีกท่านเป็นสมาชิกขาประจำที่อยู่ Aro4u มานานเช่นกัน (คุณโน้ต สามหมอก)แล้วยังพร้อมจะรอการเดินทางมาเยือนของ NC. ครั้งนี้จึงต้องไปอย่างที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ แล้วทั้ง 2 ท่านก็รอจนมาถึงต้นเดือน 8 วันที่ NC. ตัดสินใจจะย้ายบ้าน Aro4u ซึ่งจะต้องเปิดเวบไซท์ 1 วัน วันนั้นจึงถือเป็นวันที่ NC. ว่างเว้นจากงานวันหนึ่ง และวันที่ว่างนี้เป็นเพียงวันเดียวที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ทั้งสองท่านจึงร่วมกันเป็นเจ้าภาพชวน NC. มาแอ่วเมืองเหนือด้วยกันครับ
NC. ออกเดินทางในคืนวันอังคารที่ 3-8-53 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม 50 โดยการสายการบินนกแอร์ (เรียนตามตรง => แอร์สวยมากครับ เห็นแล้วหิวเลย เอ้ย !! เห็นแล้วเหมือนเด็กอยากได้ของเล่นเลย อิอิ) มาลงที่เชียงใหม่ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง NC. ไปถึงที่สนามบินประมาณเกือบ 4 ทุ่ม ยืนรอเจ้าภาพอยู่ราว 15 นาที ทั้งสองท่านจึงมารับตัวไป (ที่มาสายเพราะรถติดครับ คืนนั้นฝนถล่มเชียงใหม่ !!) เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เมื่อเดินทางมาถึงบ้านคุณเอ็ด NC. ก็เริ่มทำงานตามภารกิจแรกที่ได้รับมาทันที
ภาพปลาที่เพื่อนสมาชิกเห็นอยู่นี้เป็น ปลาแดงขนาดประมาณ 8 นิ้ว จากฟาร์ม Everise Aquaculture, ประเทศมาเลเซีย ปลาตัวนี้มีปัญหาอยู่ที่มีเกล็ดแผ่นหนึ่งที่กลางลำตัวด้านซ้าย “บิดเบี้ยวผิดรูปไป” ซึ่งจากการสอบถามกับเจ้าของปลาทราบว่าทางฟาร์มผู้จำหน่ายแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการเลี้ยงรวมมาตั้งแต่เล็กๆ อย่างไรก็ตาม ปลายังเล็กอยู่เมื่อเวลาผ่านไปเกล็ดก็จะซ่อมแซมตัวเองและหายดีเป็นปกติ คุณเอ็ดเล่าว่าได้เลี้ยงปลาตัวนี้มากว่า 2 เดือนแล้ว จากปลาไซส์ 5 นิ้ว ตอนนี้ทะลุมา 8 นิ้วตามที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่เกล็ดที่บิ่นไปก็ยังคงรูปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงเกิดเป็นความไม่สบายใจและอยากจะแก้ไข ดังนั้นในภารกิจแรกที่ NC. ต้องดำเนินการทำก็คือ “การดึงเกล็ด”
ภาพชัดๆ ของเกล็ดที่เบี้ยวผิดรูปครับ
ตู้ปลาที่คุณเอ็ดเตรียมไว้เป็นขนาด 36 นิ้ว ใช้เวลาไม่นานก็ลดน้ำถึงระดับที่ NC. มองปลอดภัยจึงได้ทำการจับต้อนปลา ซึ่งเมื่อต้อนปลาเสร็จแล้วก็ใส่ยาสลบ (ที่ผสมกับน้ำเลี้ยงเตรียมไว้แล้ว) ทันที => ใช้เวลาเพียงไม่นาน ตัวยาก็เริ่มออกฤทธิ์ และเพียงชั่วอึดใจเดียวตัวปลาก็สงบนิ่งพร้อมได้รับการศัลยกรรมดึงเกล็ด
ตรวจสภาพซักหน่อยก่อนการทำการดึงเกล็ด
ก่อนจะทำการดึงเกล็ด NC. แนะนำให้จำตำแหน่งให้ดีนะครับ ตัวปลาที่เห็นภายใต้แสงไฟจากตู้ปลา ต่างจากตัวปลาที่นำขึ้นมาเหนือน้ำ บางทีอาจจะสับสันทำให้ดึงเกล็ดผิดแผ่นก็เป็นไปได้ (ซึ่งเคยมี Case นี้เกิดขึ้นแล้ว) เมื่อได้ตำแหน่งที่แน่นอน + ตัวปลาพร้อมแล้ว ก็ทำการดึงได้เลย => สำหรับเทคนิคการดึงเกล็ด ผู้ทำการศัลยกรรมก็ต่างมีเทคนิคของตัวเอง ไม่มีท่านใดถูก ไม่มีท่านใดผิด แล้วแต่วิธีการดึง และประสบการ์ที่ผ่านพบมา สำหรับ NC. ใช้วิธีดึงเกล็ดขึ้นซึ่งก็สามารถทำได้โดยง่าย วางยาปุ๊บ เช็คสภาพ แล้วถอน รวมแล้วไม่เกิน 1 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย
*** อุปกรณ์การดึงเกล็ดก็ต้องใช้ให้ถูกต้องด้วยนะครับ ส่วนตัวแนะนำการใช้ “แหนบ” เพราะยึดแน่น ทำให้ดึงออกง่าย (ปลาก็ไม่เจ็บตัวมาก)
จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการทำให้ฟิ้นซึ่งก็ไม่ต่างจากเดิมที่ NC. เคยให้รายละเอียดไว้ NC. นำตัวปลาไปจ่อออกซิเจน ด้วยเพราะภารกิจนี้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการฟื้นตัวของปลาจึงเร็วตาม ไม่ถึง 3 นาทีก็ว่ายปร๋อเหมือนเดิมแล้วล่ะครับ
… หากจำไม่ผิด คืนนั้น NC. ไปถึงบ้านคุณเอ็ดตอนประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง และเริ่มทำการดึงเกล็ดประมาณ 5 ทุ่มเศษ เสร็จภารกิจนี้แล้วก็ได้เวลานอนพักผ่อน ไม่ไหวครับ เดินทางมาเหนื่อยไว้อีก 2 งานที่เหลือเก็บไว้เป็นคิวของพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ~~!!
ปล. คืนนั้น NC. นอนที่บ้านคุณเอ็ด โดยคุณเอ็ดจัดที่นอนให้อีกห้องหนึ่ง เรียนตามตรงก็ถือว่าน่ากลัวทั้งคู่ จะนอนคนเดียวก็ไม่คุ้นที่กว่าจะหลับได้ก็คงต้องเปิดไฟนอนพักหนึ่งแน่ๆ จะนอนกับคุณเอ็ดก็เกรงจะไม่ปลอดภัย รูปร่างหน้าตาของเรายิ่งกำลังเป็นที่นิยมของตลาดอยู่ด้วย !! ยังไงก็ตาม ท้ายที่สุดก็เลือกที่จะนอนคนเดียว อย่างน้อยก็ไม่ต้องหวาดเสียวกับ “เคราแพะ” ที่คุณเอ็ดเลี้ยงไว้ อิอิ
*** คำสารภาพผิด บทที่ 1 : บนเครื่องบินตอนเริ่มต้นของการเดินทาง ในระหว่างที่สาวนกแอร์ทั้งหลายกำลังสาธิตระบบ Safety สำหรับผู้โดยสาร ซึ่งมีการขยับตัวขยับกาย (แต่ไม่ถึงขั้นโยกย้ายส่ายสะโพก) NC. เรียนตามตรงว่าสมาธิไม่ได้อยู่ที่การสาธิตนั้นเลย แต่อยู่ที่ตัวน้องๆ เขาล้วนๆ แม้จะใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 นาที แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำให้อิ่มตาอิ่มใจครับ และส่งผลให้มีความสุขตลอดเส้นทางการบิน