Local Fish Shop (ร้านขายปลา) : Aro Dynasty
หลังที่ไปเที่ยวชมฟาร์มครบหมดทุกฟาร์มตามเป้าหมายแล้ว Vil บอกว่าต่อไปเราไปกันที่ร้าน Imperial Palace ซึ่งเป็นร้านปลาของ Vincent จากนั้นเราก็มุ่งตรงไปที่นั่นในทันที เมื่อไปถึงแล้วพวกเราเดินดูปลาภายในร้านได้เพียงครู่เดียว Vincent ก็เดินมาบอกว่า “Bro. Nan กิมโค่ว กิมโค่ว”(แปลว่า คุณแนน ไป กินข้าว กินข้าว) โอ ตรงใจแท้ๆ พวกผมกำลังหิวกันอยู่พอดีเพราะว่าตั้งแต่มื้อเที่ยงจนถึงค่ำเวลานี้เรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย Vincent ก็เลยพาเราเดินไปทานข้าวในละแวกใกล้ๆ โดยร้านอาหารเป้าหมายก็คือร้านมุสลิมร้านหนึ่ง ผมเดินเข้าไปดูข้างใน หวา… อาหารแต่ละอย่างไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเราเลย ส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก มีโรตี มีซุป ชื่อแปลกๆ เต็มไปหมด ครั้นจะไม่กินก็ไม่ได้เสียด้วยเพราะเสียงท้องเริ่มร้องดัง ก็เลยตัดสินใจสั่งอะไรที่คุ้นหน้าที่สุดมาทานกันนั่นก็คือ “ข้าวผัดไก่ทอด” และแน่นอนครับ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอแบบนี้ เพื่อนๆ ทั้ง 5 คนก็สั่งอาหารเหมือนกันหมด… ข้าวผัดไก่ทอด 5 ที่ ส่วนคนสิงคโปร์ขอโซโล่ “โรตี” กัน
ในขณะที่รออาหารมานั้น Vincent ได้พาเข้าไปดูร้านปลาร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ร้านนี้มีชื่อว่า Aro Dynasty ซึ่งจัดเป็นร้านปลาร้านใหญ่ร้านหนึ่งในสิงคโปร์ ภายในร้านจัดแบบอึมครึมค่อนข้างมืดไปหน่อย แต่มีปลามังกรทั้งใหญ่เล็กให้ชมนับสิบตัว Vincent บอกว่าเราร้านนี้เป็นร้านพันธมิตรกับเขา เราสนิทสนมกันดี แล้วก็แนะนำให้รู้จักคุณ Sean (ชอน) ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน Sean เป็นคนหนุ่มที่มีอายุอานามใกล้เคียงกับพวกเราครับคือประมาณ 26 ปี แต่มีร้านปลามังกรใหญ่แบบนี้เป็นของตัวเองแล้ว นับว่าเป็นคนหนุ่มที่มีฝีมือความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียว… (Vincent ก็เช่นกันครับ อายุ 28 ปี แต่เป็นเจ้าของร้านปลาร้านใหญ่ 2 ร้าน นับว่าเป็นเถ้าแก่ที่หนุ่มที่สุดเท่าที่ผมเจอมาในวงการปลามังกรเลย… สองคนนี้ก็ไม่ได้รวยมาก่อนด้วยนะครับ สร้างด้วยตัวเองทั้งนั้น เก่งจริงๆ)
เมื่อก้าวเข้าร้านครั้งแรกผมก็สะดุดตากับปลามังกรแดงขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ปลาตัวนี้สวยๆ มากครับ ทั้งหุ่นทรงและสีสรร รวมถึงฟอร์มการว่ายน้ำที่สง่างาม ว่าแล้วก็มุ่งตรงเข้าไปดู เห็นลักษณะเกล็ดที่เป็น Thick Frame (ขอบหนา) ประกอบกับแดงจนข้ามหลังแล้วจึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วปลาขนาเล็กๆ จะมีป้ายราคาแปะไว้ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ๆ แต่ตัวนี้ไม่มีนะครับ สอบถามก็ได้ความว่า การซื้อขายปลาใหญ่หากสนใจก็ให้พูดคุยกันเป็นตัวๆ ไป แม้ปลาตัวนี้จะมีแสงจากหลอดไฟช่วยขับในส่วนของสีสรรให้ดูดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่แบบย้อมเสียจนน่าเกลียด ปลามันแดงจริงๆ แต่แสงไฟช่วยให้ดูแดงขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง เมื่อเห็นว่าลักษณะแสงแบบนี้อยู่ในสภาพที่สามารถถ่ายภาพได้ ผมจึงขออนุญาต Sean ถ่ายภาพซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยังชมด้วยว่า “ถ่ายให้สวยๆ เหมือนกับที่ยูลงใน Arofanatics นะ ไอเห็นเป็นประจำเลย สวยมั่กๆๆ” สร้างรอยยิ้มให้ผมขึ้นบนใบหน้าก่อนตอบ “ได้เลย ตามที่คุณต้องการ : )”
1. ปลาแดงตัวสวยในร้าน Aro Dynasty
ระบบกรองของตู้ใบนี้ใช้เป็น “ถาดกรองบน” ซึ่งที่นี่นิยมใช้กันมาก ดูภาพตามไปด้วยนะครับ ลักษณะของระบบกรองจะเห็นได้ว่ามีกล่องอยู่ 4 กล่อง ภายในแต่ละกล่องจะมี 2-3 ชั้นเพื่อให้เราเลือกใส่วัสดุกรองได้ตามใจชอบ (ที่นี่ใช้ ใยแก้ว ใยหยาบ ฟองน้ำดำ และ Ceramic Ring) โดยน้ำไหลผ่านจาก Power Head ไปยังท่อ Spray Bar ด้านบน ผ่านชั้นกรองต่างๆ จากนั้นจะลงมารวมกันที่ถาดรองกล่องทั้ง 4 ข้างล่าง ก่อนจะไหลลงไปที่รูระบายน้ำสู่ตู้ปลา… ระบบกรองแบบนี้ดูแล้วอาจจะเป็นอะไรที่เกะกะลูกตาหน่อยเพราะวางสูงโด่อยู่บนตู้ ไม่มีสิ่งกีดขวาง จึงดูไม่สวยงามเรียบร้อยเหมือนฝาตู้ที่บ้านเรานิยมใช้กัน แต่พูดถึงประสิทธิภาพแล้วเขาว่าของเขาแน่ครับ (ว่าจะลองซื้อมาซักชุดแต่ติดที่การขนส่งครับ ลำบากน่าดูและเสี่ยงต่อการแตกหัก)
2. “กรองบนตู้” ระบบกรองยอดฮิตของสิงคโปร์
อย่างที่ได้กล่าวไปครับว่าภายในร้านนี้ค่อนข้างมืด จัดไฟแบบสลัวๆ ดังนั้นการถ่ายภาพจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้อของความร่วมมือจาก Sean ให้ช่วยจัดสภาพแสงไฟให้ใหม่ โชคดีที่เขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่งั๊นคงอดเก็บภาพมาฝากแน่ๆ เลยครับ ตัวต่อไปก็คือเจ้าแดงน้อยตัวนี้ เจ้านี้เป็น Violet Fusion Super Red (VFSR) จากฟาร์ม Qian Hu นะครับ (ฟาร์มสุดท้ายที่เราไปเยือน) หนวดยาว สีเข้ม ลักษณะฟอร์มและสีสรร ใช้ได้เลยทีเดียว แต่ปลาที่นี่โดยรวมๆ ดูแล้วไม่ได้ต่างอะไรกับที่บ้านเรามาก ไม่ได้สวยกว่าเกินหน้าเกินตา ราคาเปิดหน้าร้านก็สูสีกัน… อาจจะแพงกว่านิดนึงด้วยครับ อย่างใน TQH บ้านเราเปิดราคา VFSR ที่ 58,xxx บาท แต่ที่นี่ติดราคาไว้ที่ 2,588 เหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยแล้วก็ 61,500 บาท แน่นอนครับ ราคาพวกนี้เป็นราคาตั้งเท่านั้น ถ้าสนใจจริงก็จะสามารถต่อรองได้อีก (แต่จะลดได้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเส้นสายความสนิทสนมของผู้ต่อรองแต่ละคนแล้วล่ะครับ อิอิ)
3. Violet Fusion Super Red ตัวน้อยภายในร้าน
ที่ตู้ถัดไปผมเห็นทองมาเลย์อีกตัวหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่เทียบหน้าตาแล้วปลาตัวนี้จัดเป็นปลาที่สวยมากๆ ครับ ด้วยขนาดเพียง 10 นิ้ว แต่เนื้อเกล็ดเนียนเป็นสีเดียวกับหมดทั้งแผ่น เกล็ดละเอียดใต้ครีบกระโดงหลังเปิดเกลี้ยง ที่สำคัญคือข้ามหลังหมดจดเช่นเดียวกัน ปลาแบบนี้ไม่ผิดเลยหากจะเรียกว่า Full Gold ปลาลักษณะนี้ถ้าอยู่เมืองไทยล่ะก็คงจะว่ากันที่หลักแสนคัรบ (อาจจะหลายแสนด้วย) แต่พอกลับมาดูหน้าตาแล้วก็รู้สึกน่าผิดหวังอยู่เหมือนกันเพราะขนาดตัวแค่ 10 นิ้วแต่ใบหน้าแก่มีริ้วรอยให้เห็นอย่างชัดเจน ดูเป็นปลาแกรน ไม่โตตามวัย อาจเพราะกินไม่ดี ไม่ให้ความร่วมมือในการกิน น่าเสียดายปลาจริงๆ ครับ (ใบหน้าของปลาเล็กที่มีริ้วรอยหรือที่เรียกกันว่า “หน้าแก่” นั้นถือเป็นตำหนิหลักที่แก้ไขไม่ได้ครับ) ปลาตัวนี้ถ้าผู้ซื้อไม่สนใจหน้าตา ไม่สนตำหนิ ไม่สนอะไรทั้งสิ้น เอาเรื่องสีอย่างเดียวล่ะก็คงไปได้เร็วครับ แต่ถ้าผู้ซื้อสนใจทั้งฟอร์ม สภาพความสมบูรณ์โดยรวมแล้วล่ะก็… คงจะไปยากหน่อย เพราะนอกจากปลาจะดูแกรนแล้ว ยังไม่ค่อย Active อีกด้วย ได้แต่ลอยตัวนิ่งๆ ไม่ไหวติง ให้ผมเก็บภาพภายใต้อิริยาบทเพียงท่าเดียว เจ้านี่มีค่าตัวอยู่ที่ 4,588 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 110,000 บาทครับ
4. ทองมาเลย์ตัวสวย… เสียดาย หน้าตาไม่น่ามีริ้วรอยมากขนาดนี้
มาต่อกันที่ Super Red ขนาดยักษ์อีกตัว ตัวนี้ประทับใจที่ “ความใหญ่” ครับ เพราะยาวไม่น้อยกว่า 2 ฟุตแน่ๆ ลำตัวหนาดูมีพละกำลัง ถือเป็นปลาใหญ่ที่มีสภาพสมบูรณ์มาก ตำหนิหลักไม่มีให้เห็นครับ ตาสวยไม่ตก ปากสบกันดี หนวดไม่สั้น ครีบเครื่องไม่หักคด แต่สีสรรจัดว่าธรรมดาครับ ติดส้มออกเป็น Orange Red เสียมากกว่า ปลาตัวนี้อายุไม่น่าจะน้อยกว่า 5 ปี ดังนั้นความคาดหวังเรื่องพัฒนาสีสรรคงจะยากแล้ว ไม่น่าจะไปดีไปกว่านี้… เจ้านี่ถือเป็นปลาใหญ่ ดังนั้นจึงไม่มีป้ายราคาติดไว้ กฏต้องเป็นกฏ… หากสนใจก็ต้องติดต่อสอบถามเป็นตัวๆ ไป
5. Orange Red ขนาดยักษ์… สมบูรณ์มากครับ
ใน Aro Dynasty แห่งนี้มีทองมาเลย์อยู่ตัวหนึ่งซึ่งผมเห็นแล้วรู้สึกชอบมาก สีสรรของมันสวยเข้มเหมือนทองอินโด แต่เนื้อเกล็ดเงางามมากๆ แล้วก็ข้ามหลังด้วย (แบบนี้ Cross Back แน่นอน) และฟอร์มการว่ายน้ำก็สวยสง่างาม ขนาดประมาณ 17-18 นิ้ว ซึ่งจัดว่าเป็นปลาใหญ่จึงไม่มีราคาติดไว้… ปลาทุก Size ไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่งภายในประเทศ ส่วนใหญ่แล้วจะปลอดภัย แต่เท่าที่ผมเคยได้ข้อมูลมา ในการส่งปลาไปต่างประเทศ (อย่างเช่นคนไทยจะนำเข้าปลา) โดยมากจะไม่สั่งปลาใหญ่เข้ามาครับ เต็มที่ก็แค่ 18 นิ้ว เกินนี้ลำบากแน่ๆ เพราะถ้าใหญ่กว่านี้ อัตราเสี่ยงต่อการบาดเจ็บอย่างเช่น ปากแตก ครีบหัก หรือเสียหายอย่างอื่นจะมีสูงขึ้น ครั้งหนึ่งผมเจอมาแล้ว ไปดูปลามาลงที่ฟาร์มในบ้านเราแล้วเห็นปลาขนาดกลาง ครีบหัก หางขาด หนวดกุด หรือปลาใหญ่ Knock Out หงายท้องคาถุง ขับเมือกออกมามากมาย ผิดน้ำ ผิดสภาพ ผิดอุณหภูมิ ในระหว่างการเดินทางที่ยาวนานเกินไปก็ให้ผลร้ายแบบนี้ได้ อันตรายไม่น้อยจริงๆ ในการสั่งปลาใหญ่เข้ามา (แล้วเวลามีปัญหา การเคลมจะยากมากครับ… เราเป็นผู้ซื้อมีแต่ขาดทุนกับขาดทุน เพราะจ่ายค่าปลาไม่ก่อนแล้ว)
6. ทองมาเลย์เนื้อเงา สีเข้ม ตัวนี้ผมช๊อบชอบ ~~!!
ปิดท้ายการเที่ยวชมร้าน Aro Dynasty ด้วยภาพ "ขาตู้เฟอร์ลายมังกร" นะครับ ทำจากไม้โดยแกะลายเป็นรูปมังกรจีนในหลากหลายท่วงท่า สวยงามจริงๆ นับเป็นไอเดียที่ดีที่เราน่าจะเอาปรับปรุงใช้กับตู้เฟอร์ในบ้านเรา… ร้านปลาร้านนี้นอกจากขายปลาแล้วยังรับสั่งตู้ด้วย (ประกอบตู้กระจกและทำขาไม้) นับเป็นธุรกิจเสริมที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี แล้วก็น่าสนใจด้วยนะครับเพราะทำออกมาได้สวย เนียน เนี๊ยบเลยทีเดียว : ) หลังออกจากร้าน พวกเราก็พุ่งตรงไปที่ร้านอาหารในทันที อาหารถูกตั้งวางไว้แล้ว เราก็หิวแล้ว เอาเลยพวก ~~!! (มื้อนี้ Sean เจ้าของร้านก็เข้ามาร่วมแจมด้วย และขอต้อนรับเพื่อนสมาชิกจากเมืองไทยด้วยการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อนี้ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ)
Nanconnection
7. ตู้เฟอร์ลายมังกร