ไม่ไกลกันเท่าไหร่ก็เป็นบู๊ทของฟาร์ม Panda อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่เจ้าแห่งปลามังกรของสิงคโปร์เลย สำหรับปลาของ Panda ที่เอามาโชว์รอบนี้มีทีเด็ดหลายอย่างเลย ผมขอเริ่มที่เจ้านี่ก่อนนะครับ… “พี่แดงหนวดยาว” เป็นชื่อที่ผมเรียกปลาตัวนี้ แต่จริงๆ แล้วก็เป็น Super Red เกรดธรรมดาของ Panda แหละครับ แต่มีลักษณะพิเศษก็คือ “หนวด” ของมันยาวมาก (ขนาดตัวประมาณ 1 ฟุตแต่หนวดยาวถึง 1.5 นิ้ว)
=> ถ้าผมจำไม่ผิดเห็นเจ้านี่มีติดราคาไว้ด้วยครับ รู้สึกจะประมาณ 6,000 เหรียญ หรือ 138,000 บาท ส่วนที่ตู้ถัดไปเป็นตู้ต้นไม้น้ำซึ่งมีทองอินโด (แต่ฟาร์ม Panda เรียกว่า Hiback) ขนาดประมาณ 18” ว่ายโชว์อยู่ ปลาตัวนี้สวยมากนะครับ เป็นปลาใหญ่ที่สมบูรณ์ สีสันเข้มจัดเลยทีเดียว ราคาที่แปะอยู่ก็คือ 8,000 เหรียญ หรือ 184,000 บาท (ปลามังกรที่เมืองนอกนี่ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งแพง ต่างกับบ้านเราที่ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งถูก… ถ้าเจ้านี่มาอยู่บ้านเรา ตั้งราคาไว้แค่ 50,000 บาท ลูกค้าก็เมินหน้าหนีกันแล้วล่ะครับ คุณว่ามั้ย ?)
คราวนี้เข้าไปดูภายในบู๊ทบ้าง… เข้าไปก็เจอกับเจ้าหนูน้อยคู่แฝดตัวนี้เลย ภาพที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ก็คือ ลูกปลามังกรที่มีลักษณะตัวติดกันแต่มี 2 หัว (ใช้อวัยวะภายในร่วมกัน) ซึ่งถือเป็นความผิดปกติ และส่วนใหญ่ก็จะมีอายุสั้น ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีตัวไหนที่อยู่รอดจนเป็นปลาใหญ่ได้เลย จริงๆ แล้วปลาแบบนี้ผมเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งที่ร้าน MAX โดยคุณสุรชัย เจ้าของร้านเป็นผู้นำมาให้ดู (ปัจจุบันคือผู้บริหารร้านตะพัด) แต่ทว่าในครานั้นลูกปลาตัวที่ว่าหมดลมหายใจไปแล้ว สภาพปลาที่เห็นอยู่ในน้ำฟอร์มาลีนเพื่อรักษาสภาพ คุณสุรชัยบอกว่าเหตุผลที่ซื้อมาก็เพราะเชื่อว่าตัวเองสามารถเลี้ยงให้รอดได้ แต่แล้วก็ไม่สำเร็จผลครับ… ส่วนเรื่องราคาคุณสุรชัยบอกเพียงสั้นๆ ว่า “หลักแสนครับคุณแนน”… แต่สำหรับเจ้าตัวเล็กของ Panda ที่ผมมาเห็นด้วยตาตัวเองแบบยังมีชีวิตอยู่ ก็อดใจเอาใจช่วยให้มันอยู่รอดต่อไปนานๆ ไม่ได้ สู้เข้านะเจ้าหนูน้อย ขอให้มีชีวิตรอดต่อไปนานๆ
ตู้ใกล้ๆ กันก็มีปลามังกร ทองมาเลย์ Short Body มาแสดงให้เห็นด้วย แต่ว่าสภาพบอบช้ำยับเยินเล็กน้อย ผมก็ไม่ทราบว่าไปโดนอะไรเข้าหรือเพิ่งจะผ่านสมรภูมิอะไรมาแต่เห็นแล้วแปลกตาดี ลำตัวก็สั้นได้สัดส่วนเลยเก็บภาพมาฝากครับ ที่สำคัญคือพระเอกเก่าอย่าง Axanthic ปลามังกรแก้มแดง ก็ไม่น้อยหน้าขอมาโชว์ตัวด้วยเช่นกัน…
ผมขอปิดท้ายบู๊ทของของฟาร์ม Panda ด้วยทองมาเลย์เกรดพิเศษตัวนี้นะครับ จะพิเศษแค่ไหนผมเองก็ไม่ทราบเพราะไม่มีผู้รู้มาให้คำตอบผมได้ แต่เมื่อได้ดูตัวปลาแล้วยอมรับว่าสวยมากครับ แม้จะไม่ได้ชื่อว่าเป็น Golden Head หรือมีชื่ออันหรูหราเหมือนฟาร์มอื่นๆ แต่เจ้านี่ก็แววดีไม่เบา เกล็ดแถว 5 เปิดเต็มหมดแล้ว เกล็ดละเอียดใต้ครีบหลังก็เช่นกันครับ เปิดทุกเกล็ดแบบหมดจดเลย หุ่นก็ดี สีก็ไม่เบา… ที่จริงแล้วก่อนที่ผมจะเดินมาดูเจ้าตัวนี้ผมได้ยินหลายคนเขาพูดกันว่าที่บู๊ทของฟาร์ม Panda มี Platinum Arowana อยู่ ผมก็ดูหมดแล้วแต่กลับไม่เจอ พอมาเห็นเจ้าตัวนี้ก็มั่นใจว่าคงเป็นเจ้านี่แหละที่เขาพูดถึงกัน แม้ทองมาเลย์ตัวนี้จะมีโทนสีเกล็ดเป็นสีขาว แต่ก็ไม่ขาวในแบบ Platinum ถ้าเป็น Platinum จริงจะเป็นขาวเงา และสว่างทั้งตัว แต่สำหรับตัวนี้สีของเครื่องครีบยังเป็นสีแดงอยู่เลย นั่นจึงหมายความว่าไม่ใช่นะครับ…
สำหรับร้านสุดท้ายที่ผมจะพาเพื่อนผู้อ่านไปรู้จักก่อนพบกับเขตประกวดปลามังกร ก็คือร้าน Imperial Palace (เป็นร้านปลาไม่ใช่ฟาร์มเพาะพันธุ์) บู๊ทนี้ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ แล้วถือว่าเล็กมาก (จะเรียกว่าเล็กที่สุดก็ว่าได้) แต่ปลาที่เอามาโชว์คุณภาพไม่ได้เล็กตามเลย ของดีของร้านนี้อยู่ที่เจ้าตัวนี้ครับ Golden Head (จากข้อมูลวงในได้ยินว่าเป็นปลาจากฟาร์ม King Kong) แล้วก็เป็น Golden Head เกรดพิเศษด้วย
โดยส่วนตัวผมมองว่า Golden Head เกรดนี้เป็นปลาที่สวยมากเลยทีเดียว ด้วยขนาดเพียง 6” เกล็ดก็เปิดข้ามหลังหมดแล้วทุกเกล็ด แถมยังมีความเงางามแบบเห็นได้ชัด (จุดนี้การใช้หลอดไฟและการจัดสภาพแวดล้อมของทางร้านก็อาจมีส่วนช่วยด้วย) ที่สำคัญคือมัน Golden Head จริงๆ เพราะว่าที่บริเวณหัว จมูก และบนริมฝีปากปลามีสีทองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังกินบริเวณไม่มากแต่ก็สังเกตเห็นได้ ต่างกับเจ้า Sapphire Gold ของ DFI ที่แม้จะบอกว่าเป็น Golden Head แต่ก็ยังไม่สามารถสังเกตเห็นความชัดเจนของลักษณะที่ว่านั้นได้ แต่นั่นก็อาจจะเป็นความแตกต่างในเรื่อง Base สีของตัวปลาก็ได้เพราะว่า Sapphire Gold เป็นปลาทองมาเลย์ Blue Base ในขณะที่ของ King Kong จะออกเป็น Gold Base มากกว่า… แต่ถ้าข้ามหลังกันเห็นๆ จะๆ เต็มตาแบบนี้แล้วล่ะก็ คงไม่น่าเกลียดครับถ้าผู้ขายจะบอกว่า “เจ้านี่ล่ะ อนาคต Full Gold”
NOTE : Full Gold คือปลามังกรสายพันธุ์ทองมาเลย์ที่มีระดับสูงสุด ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเลี้ยงปลาชนิดนี้ นั่นเพราะความทองแบบเนียนเนี๊ยบทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดหางของมันทำให้ใครต่อใครที่ได้พบเห็นเป็นต้องเหลียวมองเพราะต้องตาในความงดงามของมัน ปัจจุบัน Full Gold มีเหลือให้เห็นน้อยมากครับ (บอกได้ชัดเจนในกรณีเป็นปลาใหญ่เท่านั้น) เนื้อทองของ Full Gold จะเป็นแบบทองสีเดียวไม่ติด Base สีในนะครับ (หมายถึงทองเต็มเกล็ดไม่มีเหลือบสีม่วงหรือสีอื่นเข้ามาผสม)
สำหรับราคาของ Golden Head ชุดนี้ต่างกับ Golden Head ของ DFI รวมถึงปลามังกรที่เสนอขายในฟาร์มอื่นๆ ด้วยนั่นก็เพราะว่าปลาของที่นี่มีหน่วยเงินตราเป็น USD (ดอลล่าห์สหรัฐ) ครับ แล้วเจ้าตัวนี้ก็ยังมีราคาสูงถึง 5,000 USD หรือ 200,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 USD : 40 บาท)… ผมถามตัวเองว่า
– แพงมั้ย ?… อืม แพงครับ ตั้ง 200,000 เชียวนะ… แพงแน่ๆ
– อ้าว ! แล้วปลาล่ะสวยมั้ย ?… สวยสิครับ สวยมากเลยทีเดียว ไม่เคยเห็นปลาแบบนี้มาก่อน นี่ถ้าไม่ได้มาที่งานนี้คงไม่ได้มีโอกาสได้เห็นด้วยตาตัวเองแน่ เพราะที่ผ่านมาปลาแบบนี้เคยเจอแต่หนังสือนิตยสารปลาสวยงามของเมืองนอกเท่านั้น
– หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ อนาคตมันไปได้แค่ไหน ?… ดูแล้วไปได้ไกลแน่นอน หุ่นก็สวย ตาก็สวยไม่มีตกปากก็สบปิดสนิทกันดี เครื่องครีบก็สมสัดส่วนไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ก็เรื่องก็อย่างที่บอกล่ะครับ ถ้าเจ้าของบอกว่าอีกหน่อยมันโตขึ้นมาจะเป็น Full Gold ก็คงจะไม่แปลก แล้วผมก็คงจะเชื่อเพราะปลาเล็กแค่นี้เกล็ดข้ามหลังหมดแล้ว แล้วดูจากสีเกล็ดก็เป็นสีทองด้วย ไม่ติด Base สีในให้เห็นเป็นสีอื่น แบบนี้แทบไม่ต้องลุ้นแล้ว แค่รออย่างเดียว… รอวันที่มันจะทองทั่วทั้งตัวเป็น Full Gold… ที่สุดของทองมาเลย์
– น่าซื้อมั้ย ?… ไม่น่าซื้อครับ ทำไมล่ะ ?… ไม่ไหวครับ เกินขีดความสามารถของเราไปมาก ถ้าผมจะซื้อตัวนี้จริงๆคงต้องขายบ้าน ขายรถ ขายปลาที่เลี้ยงไว้หมดบ้าน ดีไม่ดีอาจยังไม่พอ คงต้องเป็นหนี้เขากู้เงินเพิ่มเติมมาโปะซื้ออีกด้วย… จะหมดตัวด้วยการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงตัวเดียวคงไม่ไหวครับ
– แล้วคุ้มค่ามั้ยล่ะถ้าพอจะมีเงินซื้อ ?… เอ่อ ไม่คุ้มครับ ผมว่าถ้าผมมีเงิน 200,000 บาทผมซื้อปลาใหญ่สวยปิ๊งๆ มาเลี้ยง หรือไม่ก็ซื้อเกรดธรรมดาตัวละ 3-4 หมื่นมาเลี้ยงรวมกันซักครึ่งโหลดีกว่า ได้ทั้งมันส์ สะใจแล้วก็ได้ลุ้นไปด้วย
ผมถามเองตอบเองแล้วก็ไปดูปลาตัวต่อไป… ปลาอีกชนิดของร้านนี้ก็คือเจ้าลูกผสมระหว่างทองมาเลย์กับแดงตัวนี้ไงล่ะครับ สำหรับลูกครึ่งแดง + มาเลย์ หรือที่เรียกว่า Red Splendor (RS) ของร้านนี้ที่เอามาโชว์เป็นปลาใหญ่ ดังนั้นสีสันความงดงามจึงชัดเจนแล้ว ต่างกับตัวที่เห็นในบู๊ทของ Qien Hu ที่ยังไม่ใหญ่มากนัก แต่อย่างที่ได้กล่าวไปนะครับว่าร้านนี้เป็นร้านปลาไม่ใช่ฟาร์มเพาะพันธุ์เอง ดังนั้นที่มาของ Red Splendor ชุดนี้จึงไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ส่วนเรื่องราคาก็ไม่มากเท่าไหร่นัก (ถ้าเทียบกับพวก Golden Head ตัวเล็กๆ ในร้านเดียวกัน) นั่นก็คือ 3,500 USD หรือ 140,000 บาทครับ… ราคาแบบนี้ ? กับปลาสีแบบนี้ ? อย่างเราๆ พอจะเป็นเจ้าของครอบครองมันได้มั้ยครับ ?
รอบหน้าชมปลาสวยขนาดใหญ่ในงานด้วยกันนะครับ