เที่ยวฟาร์ม Qian Hu… ยักษ์ใหญ่แห่งวงการปลาสวยงามของสิงคโปร์
ช่วงเย็นวันเดียวกับที่ไปงาน Aquarama ผมได้มีโอกาสไปเยือนฟาร์ม Qian Hu ฟาร์มปลาสวยงามยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ด้วย จริงๆ แล้วการไปครั้งนี้เป็นโปรแกรมที่นอกเหนือจากรายการที่ได้ระบุไว้ แต่เพราะกลุ่มคนที่ไปส่วนใหญ่ก็เป็นนักเลี้ยงปลากันทั้งนั้นก็เลยโหวตให้ไปกัน ผมกับเพื่อนรักทั้ง 2 จึงเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ไปเที่ยวฟาร์มครั้งนี้ด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือฟาร์มนี้เป็นผู้ส่งออกปลามังกรรายใหญ่ให้กับบ้านเราด้วย ก็ภายใต้ใบเซอร์ทีชื่อว่า Wan Hu ไงล่ะครับ ผมเชื่อว่านักเลี้ยงปลามังกรรุ่นใหม่ๆ ไม่มีใครไม่รู้จักฟาร์มนี้แน่ แต่ที่นี่จะมีอะไรดีเดี๋ยวตามไปดูข้างในกันครับ
เป็นเพราะบริษัท Qian Hu เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวปลาสวยงามเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปลามังกร ปลาทอง ปลาเล็กปลาน้อย ปลาหมอสี ปลาคาร์พ ปลากัด ปลาหมู ปลา Catfish กระเบนสวยงามชนิดต่างๆ ปลาแปลก ปลาหายาก และอีกหลายอย่าง ดังนั้นแรกก้าวเข้าไปจึงได้พบกับปลาชนิดต่างๆ มากมายทั้งที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ่อและเลี้ยงไว้ในตู้โชว์ ในส่วนนี้ผมจะพาไปชม Gallery ก่อนนะครับ ซึ่งเป็นห้องแสดงปลาสวยงามหลากหลายชนิด แต่ขอเน้นเป็นพิเศษเฉพาะปลามังกรนะครับ ตัวแรกที่ท่านเห็นเลยก็คือ Violet Fusion Super Red (VFSR) ปลาสายพันธุ์นี้แปลชื่อแล้วหมายถึงว่า “ปลามังกรแดงเหลือบเกล็ดสีม่วง” ซึ่งถือเป็นปลาระดับสูงสุดของ Qian Hu สำหรับตัวที่เห็นมีขนาดประมาณ 1 ฟุตพอดี หน้าตา รูปทรง ผ่านเลยทีเดียว ตาไม่ตก ปากปิดสนิทดี เครื่องครีบใหญ่โต แถมยังว่ายน้ำสวย แต่ทว่าสีสันยังไม่จัดจ้านนักยังเห็นเป็นสีส้มๆ อยู่ ปลาแบบนี้ ขนาดนี้ ถ้าอยู่ที่เมืองไทยราคาเต็มที่ผมว่าไม่เกิน 75,000 บาท แต่สำหรับที่นี่ราคาที่เห็นแปะอยู่ข้างหน้าตู้ก็คือ 3,988 เหรียญ หรือ 91,724 บาท… เรียกว่าสูงมากพอควรเลยทีเดียว
เดินต่อมาเรื่อยๆ ก็มาเจอ “ทองอินโด” แต่ว่าไม่สามารถถ่ายภาพได้เพราะตู้มืดมาก (ปิดไฟทั้งหมด) แต่เห็นตัวปลาแล้วก็ถือว่าใช้ได้ครับ ที่สำคัญคือขนาดของตัวปลาที่พร้อมขายใหญ่กว่าเราอีกด้วย (กำลังน่าเลี้ยงเลย) ที่บ้านเราทองอินโดที่เอามาขายส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 3.5”-4” ราคาเปิดกันอยู่ที่ 17,000 บาท แต่สำหรับที่นี่ปลา 5” ราคาอยู่ที่ 520 เหรียญ หรือ 11,960 บาท ปลาใหญ่กว่าแล้วก็ถูกกว่าเราไม่น้อยเหมือนกันนะครับ สุดท้ายของห้องนี้ก็คือ Red B (Red Arowana) ที่บ้านเรา Red B ขนาด 3”-4” ราคาเปิดกันที่ 8,000 บาท แต่ที่นี้ 5” เช่นกันราคาอยู่ที่ 300 เหรียญ หรือ 6,900 บาทครับ แค่ราคาตั้งหน้าร้านก็ถูกกว่าเรามากแล้ว ราคาปิดจริงๆ ก็คงลงต่ำกว่านี้ไม่น้อยแน่ๆ ครับ… แต่อย่าคิดว่าซื้อปลาเมืองนอกแล้วจะถูกกว่าที่เมืองไทยนะครับ ลำพังการซื้อจำนวนน้อยแล้วก็โดนภาษี (ต่อตัว) 2 ต่อเล่นแล้วบางทีรวมๆ ราคาแล้วอาจจะหนักกว่าซื้อที่บ้านเราก็ได้
ก่อนออกจาก Gallery ผมก็ได้เหลือบไปเห็นเจ้าปลามังกรออสเตรเลียที่มีอาการผิดปกติอยู่ตัวหนึ่ง อาการผิดปกติที่ว่านี้ก็คือ “เหงือกอ่อน” ของมันมีเนื้องอกยื่นออกมาเป็นจำนวนมาก (คล้ายๆ เห็ดหูหนูขาว) แต่น่าแปลกที่ไม่เน่า แล้วก็มีลักษณะเหมือนกันทั้งสองข้าง ดังนั้นเวลาที่มันว่ายน้ำก็เลยดูเหมือนเส้นผมของมังกร (เห็นแบบนี้ไม่มีผลต่อการว่ายน้ำนะครับ ปลาไม่เสียศูนย์ ไม่ว่ายหัวทิ่ม แต่ยังว่ายน้ำเป็นปกติดีอยู่) เห็นว่าที่บ้านเราไม่มีกันก็เลยเก็บภาพมาฝาก ส่วนราคาขายที่ป้ายไมได้ติดไว้ แต่เชื่อผมสิครับ… ของแปลก ของหายาก แล้วออกมาดูดีเป็นพิเศษแบบนี้ ไม่ใช่ถูกๆ แน่นอน
ออกจาก Gallery แล้วคราวนี้ไปเที่ยว House of Dragons ที่อยู่ข้างๆ กันบ้างครับ ที่แห่งนี้ต่างกับ Gallery ตรงที่มีแต่ปลามังกรให้ชมอย่างเดียว… เข้าไปถึงปลามังกรตัวแรกที่ออกมาทักทายก็คือ Electric Blue Cross Back เจ้านี่ก็มาที่เมืองไทยเช่นกัน ราคาเปิดตอนนั้นก็คือ 55,000 บาทสำหรับขนาด 5” แต่ที่นี่ 6” แล้ว ราคาที่เสนอก็คือ 1,988 เหรียญหรือ 45,724 บาท สภาพแวดล้อมของปลาก็เช่นเดียวกับทองอินโดครับคือปิดไฟตู้ ดังนั้นจึงไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ชมได้…
น่าเสียดายมากๆ ครับ มาดูตัวถัดไปดีกว่า เพื่อนๆ ท่านไหนที่อ่านหนังสือที่เกี่ยวปลามังกรมาแล้วหลายเล่มคงต้องเคยได้เห็นเจ้าตัวนี้ลงหนังสือบ้างแล้ว ก็ “เจ้าทองมาเลย์หน้าฉลาม” ตัวนี้ไงล่ะครับ… เจ้านี่ถือเป็นพระเอกของ Qian Hu เลยก็ว่าได้ เพราะเห็นว่าอยู่มานานมากแล้ว (เข้าใจว่าเจ้าของไม่ขายน่ะครับ สังเกตดูก็ไม่มีป้ายราคาติดไว้) โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบพวกปลาพิการเท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนที่ชอบเล่นปลาแปลกอย่างเช่น ปลาสั้น (Short Body) หรือปลาหลังค่อม (King Arowana) ถ้าเห็นเจ้านี่แล้วก็คงจะหลงไหลและอยากได้ไม่แพ้กัน
ต่อไปมาดูปลาแดงตัวเด็ดของห้องมังกรนี้บ้าง ปลาตัวที่เห็นเป็น VFSR ขนาดใหญ่ประมาณ 20” สีสันก็แดงจัดชัดเจนดี (ผมว่าตัวนี้สวยกว่า Grand Champion ในงาน Aquarama อีกนะ) หุ่นก็สวยแถมยังไม่มีตำหนิอีกด้วย ปลาใหญ่ขนาดนี้ตามร้านขายปลาบ้านเราไม่ค่อยมีขายกันเท่าไหร่… นานๆ จะหลุดมาที แล้วถ้ามีแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ สีแบบนี้ก็คงจะราคาประมาณที่ 200,000 บาท แล้วอยากทราบมั้ยล่ะครับว่าปลาตัวนี้ที่นี่ขายกันเท่าไหร่ ? คำตอบก็คือ 13,888 เหรียญหรือ 319,424 บาทครับ ไม่เบาเลยทีเดียว (บ้านเราถ้าเป็นราคานี้คงขายกันยาก ใครผ่านมาได้ยินราคาคงต้องถอยกรูดออกไปตั้งหลักที่นอกร้าน)… สวยจริง แพงจริง คงต้องคนที่รักชอบจริงๆ ครับถึงจะตัดใจซื้อครอบครองเป็นเจ้าของมันได้
NOTE : ราคาปลาส่วนใหญ่ที่เมืองนอก (ทั้งที่สิงคโปร์และที่มาเลย์เซีย) มักจะลงท้ายด้วย เลข 8 เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยครับ ? จากการสอบถามก็ได้คำตอบว่าเลข 8 นั้นเป็นเลขมหามงคลของเขานั่นเอง หาได้มีเหตุผลอื่นใดแอบแฝงไม่ ต่างกับบ้านเราที่ชอบอะไรถ้วนๆ… ควักจ่ายง่ายดี
มาดูปลาตัวสุดท้ายของห้องนี้กันนะครับ เจ้านี้ก็คือ Super Red เกรดธรรมดาแต่มีขนาดตัวที่ใหญ่โตมาก ประมาณ 25” เห็นจะได้ แต่สีสันไม่ได้โดดเด่นเท่าตัวก่อนหน้า ออกจะจืดกว่ามากด้วย สีโดยรวมจะเรียกว่า Orange Red ก็คงไม่น่าเกลียด จากขนาดตัวผมคิดว่าปลาตัวนี้คงจะมีอายุมากแล้ว (น่าจะไม่น้อยกว่า 8 ปี) แต่ใบหน้าไม่แก่เท่าไหร่นัก ไม่มีรอยยับ รอยย่น ให้เห็นแล้วรู้สึกคาญใจ ปลาแดงตัวนี้ถือเป็นปลาใหญ่ที่สมบูรณ์มาก ตำหนิมีไม่มากแค่เพียงตาขวาโปนและตาซ้ายตกนิดหน่อย แต่ปากปิดสนิทดี ครีบเครื่องไม่มีรอยหักผุ แต่คงเพราะอายุมากก็เลยไม่ค่อยว่ายน้ำก็เป็นได้เพราะตอนที่ผมไปเห็นก็นอนเฉยๆ จอดนิ่งๆ ขยับตัวไปมาซ้ายขวานิดเดียว เลยทำให้ถ่ายรูปต่อเนื่องได้หลายช๊อทอย่างที่เห็นน่ะครับ เจ้านี่อาจเป็นอีกตัวครับที่ทางร้านจะขอเก็บไว้ไม่ขาย (ประมาณว่าอยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว… เป็นปลารุ่นแรกๆ) เพราะไม่มีป้ายเสนอราคาติดไว้ ก็คงอยู่ต่อไปกันอีกยาวล่ะครับ
ออกมาด้านนอก House of Dragons ก็จะเป็นบริเวณที่ขายปลาเล็กปลาน้อยอย่างเช่นปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาออสก้า ปลาสอด เท่าที่เห็นก็มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาดู มาซื้อปลาอยู่ตลอด ที่ตรงข้ามกันก็มีปลากัดขายด้วยครับ แต่เรื่องปลากัดผมไม่ถนัดเท่าไหร่ (แค่พอเลี้ยงเป็น) ก็เลยไม่ได้เข้าไปเจาะลึกลงรายละเอียดมาก ด้านนอกของฟาร์มก็มีบ่อพักปลาสำหรับเตรียมส่ง บ่อที่ว่านี้ส่วนใหญ่จะเลี้ยงพวกปลาทอง ปลาคาร์พ จากการสอบถามก็ได้ความว่าปลาสวยงามในบ่อที่เห็นสามารถซื้อได้ทั้งปลีกและส่ง… ดีจริงๆ เลยนะครับ
ก่อนกลับออกจากที่นี่ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปที่ร้านค้าของเขาด้วย เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าที่นี่ไม่ได้ทำแค่ปลาสวยงามอย่างเดียว แต่ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาขายอีกด้วยอย่างเช่น ตู้ปลา หลอดไฟ เครื่องกรองน้ำ วัสดุกรอง อาหารปลา หลอด UV วิตามินเสริมชนิดต่างๆ ภายใต้ยี่ห้อ Ocean Free (และยังมีของยี่ห้อชั้นนำอย่างอื่นร่วมจำหน่ายอีกด้วย) เมื่อเข้าไปดูของและเช็คราคาข้างในแล้วก็เรียกได้ว่าไม่ได้ผิดหวังนัก ราคาพอๆ กับเมืองไทยครับ แต่ถ้าราคาเท่ากันสู้ซื้อเมืองไทยดีกว่า แถมเมืองไทยน่าจะถูกกว่าด้วยเพราะสามารถต่อรองราคาได้ ส่วนที่นี่เป็นแบบมีแถบราคาติดอยู่ เมื่อซื้อแล้วก็ต้องไปจ่ายที่ Counter (เหมือนกับ 7-11) ดังนั้นจึงไม่สามารถลดราคาได้
ออกจากร้านค้าแล้วก็เดินทางกลับโรงแรมที่พักเป็นอันเสร็จสิ้นการทัวร์เที่ยวในวันนี้… เป็นไงมั่งครับงาน Aquarama กับมุมมองเรื่องปลามังกรของผม ? บางท่านก็อาจจะเห็นด้วย บางท่านก็อาจไม่เห็นด้วย แล้วแต่มุมมองครับเพราะต่างคนก็ต่างจิตใจกัน แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็ดีใจที่ได้มีโอกาสเอาเก็บภาพปลามังกรจากต่างแดนมาฝากเพื่อนผู้อ่านที่รักปลาชนิดนี้ในบ้านเราได้เห็นกัน แล้วพบกันใหม่ใน "มังกรหรรษา" ตอนต่อไปนะครับ