ฟาร์มที่ 3 : Max Koi Farm
สถานที่ต่อไป Vincent ขับรถนำเราข้างหน้าเพื่อมุ่งตรงไปยัง Max Koi Farm เมื่อถึงแล้วเขาก็จอดรถแล้วเดินในท่วงท่าที่สบายใจเฉิบเหมือนหนึ่งกับว่านี่ที่เป็นบ้านของเขา สอบถามไปมาก็ได้ความจาก Vil ว่า Vincent มีหุ้นส่วนที่นี่ (อะไรจะกว้างขวางปานนี้) เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่าชื่อฟาร์มนี้มันเป็นปลาคาร์พนี่นะ ไม่ใช่ปลามังกร ? แล้วที่นี่จะมีปลามังกรได้อย่างไร ? Vil ก็เล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วน้ำเนื้อของที่นี่เป็นปลาคาร์พครับ (ทำเป็นหลัก) แต่ช่วงหลังเจ้าของฟาร์มได้หันมาสนใจปลามังกรและทดลองเลี้ยงดู จนวันหนึ่งได้รู้จักกับ Vincent แล้วก็สนิทสนมกัน ร่วมทุนด้วยกันมาโดยตลอดจนช่วงหลังแบ่งส่วนบ่อของปลาคาร์พมาเพื่อเพาะปลามังกร (แต่สำเร็จผลรึเปล่า ? เรื่องนี้ยังไม่ถูกเปิดเผย) ทั้งคู่ส่งปลาเข้าประกวดในงาน Qian Hu Arowana Competition 2004 ที่ผมได้ไปเป็นกรรมการด้วย แล้วก็ได้รับถ้วยรางวัลกันไป Vil ยังบอกอีกว่าปลาตัวที่ติดเหรียญก็ยังคงอยู่ที่นี่ไม่ได้ถูกขายออกไป ว่าแล้วเขาก็พาพวกเราไปชมเหล่า Champion ในห้อง Showroom ที่อยู่ไม่ไกลกัน
ภายใน Show Room มีปลาอยู่ประมาณ 6-7 ตัว แต่ละตัวก็เป็นปลาใหญ่ที่มีขนาดตั้งแต่ 20 นิ้วขึ้นไป ผมเลือกเก็บภาพเฉพาะตัวที่ได้รางวัลนะครับ เพราะสภาพแวดล้อมไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่นักเนื่องจากไฟน้อย (ประหยัดไฟกันอีกแล้ว) แถมยังอยู่ในห้องกระจก และเป็นเวลากลางวันคล้อยเย็นซึ่งแสงแดดยังไม่หมดไป บางตู้เมื่อถ่ายแล้วจะสะท้อนเห็นตัวเองซึ่งเดี๋ยวจะดูดีกว่าตัวปลา (แต่ท่านไม่อยากเห็น 5555) มาดูตัวแรกกันดีกว่าครับ ตัวนี้เป็นทองมาเลย์ที่ได้รับรางวัลในการประกวด แต่เป็นอันดับที่เท่าไหร่ไม่แน่ใจนะครับ รู้อย่างเดียวว่าสวยและเขาก็ให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพด้วย อวดโฉมโชว์ท่วงท่าวาดลีลาให้ดูใหญ่เลย เจ้านี่นับเป็นปลาที่มีความสมบูรณ์มาก ตาก็ไม่ตก ปากก็สบสวย หนวดยาว เกล็ดละเอียดเปิดหมดและข้ามหลังแล้ว สีสรรก็สวยเด่นสมแล้วที่ได้รับรางวัลมา
1. “หนอนยักษ์” อาหารยอดฮิตของที่นี่
2. ทองมาเลย์ตัวสวย หนึ่งในปลาคุณภาพที่ได้รับรางวัล
อีกตัวเป็น Tong Yan Cross Back หรือลูกครึ่งทองมาเลย์ x แดง ครับ ตัวนี้ดูผ่านๆ แล้วไม่ต่างกับทองมาเลย์ธรรมดาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นผู้รู้ที่มีประสบการณ์ก็อาจจะบอกว่าสีของมันไม่เหมือนทองมาเลย์ทั่วไป เพราะเกล็ดจะออกทองเหลืองคล้อยไปทางทองแดง (อธิบายไม่ค่อยถูกต้องดูภาพประกอบไปด้วยนะครับ) เจ้านี่เป็นอีกตัวที่ถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ตาสวยไม่ตกเช่นกัน แต่ปากยื่นเล็กน้อยและหนวดสั้นไปหน่อย นอกนั่นล่ะก็แจ๋วทุกอย่าง (ตู้เลี้ยงปลาใหญ่ที่นี่เล็กมากครับ เหตุผลที่ทำให้หนวดปลาสั้นลงก็อาจมาจากสาเหตุนี้ เพราะตู้ที่ใช้มีขนาดแค่เพียง 36” นิ้วเท่านั้นเอง)… เอาล่ะครับ เราไปชมบรรยากาศของฟาร์มกันดีกว่า
3. ตัวนี้เป็นTong Yan ที่ติดเหรียญเช่นกัน
Max Koi Farm ถือเป็นฟาร์มปลาใหญ่มากๆ ครับ มีบ่อเพาะเลี้ยงเป็นร้อยๆ บ่อ แต่ว่าปลาที่เลี้ยงไว้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาคาร์พไม่ใช่ปลามังกร ดังนั้นในระหว่างทางเดินจึงเห็นแต่ปลาคาร์พสีสรรสวยงามทุกขนาดนับพันนับหมื่นตัว Vincent พาเดินไปเรื่อยจนถึงด้านในสุดซึ่งเป็นส่วนของบ่อปลามังกร โดยบ่อแรกที่ผมเห็นนั้นเป็นบ่อของทองมาเลย์ ขนาดของตัวปลาอยู่ที่ประมาณ 18 นิ้ว แม้จะมีจำนวนปลาไม่มากนัก (ราวๆ 10 ตัว) แต่คุณภาพยอมรับว่าคับจอจริงๆ เนื้อสีทองสวยมาก ข้ามหลังแล้ว Vincent บอกว่าปลาเหล่านี้ไม่ได้มีไว้ขาย แต่เก็บไว้เพื่อเป็นพ่อพันธุ์ชั้นดีเพื่อการเพาะพันธุ์ต่อไป บ่อถัดมาก็เป็นบ่อปลาแดง แลดูลงไปก็อดตื่นตาตื่นใจกับขนาดปลาและความแดงของมันไม่ได้ ตัวเบ่อเริ่มเทิ่ม (น่าจะเกิน 24 นิ้วทุกตัว) และสีสันก็ดีมากๆ แดงเป็นเลือดเลยว่างั๊นก็ได้ Vincent พูดด้วยความภูมิใจว่า ปลาเหล่านี้เป็นปลาที่เจ้าของฟาร์มซื้อไปจากเขา แต่พอโตแล้วเขาขอซื้อคืนบางส่วนและตั้งใจจะเก็บปลาชุดนี้ไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์… ถ้าเห็นพ่อแม่ปลาแบบนี้แล้ว คงไม่ลำบากใจที่จะซื้อลูกแล้วล่ะครับเพราะแดงจริงๆ (สีน้ำของบ่อปลาที่นี่จะดูเขียวหน่อยนะครับเพราะถูกแสงโดดโดยตรงทุกวัน ทำให้มองเห็นตัวปลาลำบาก อย่างในบ่อทองมาเลย์นี่ยังพอเห็นตัวปลาบ้าง แต่ในบ่อปลาแดงมองไม่เห็นอะไรเลย)
4. บรรยากาศบ่อปลาใน Max Koi Farm
5. แม้ตอนนี้จะหันมาเล่นปลามังกรบ้าง แต่น้ำเนื้อจริงๆ ยังเป็นปลาคาร์พครับ
ระบบการให้อากาศในบ่อปลาก็ใช้ร่วมด้วยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับระบบกรอง คืออาศัยน้ำจากที่กรองแล้วตกกระแทกลงมาให้เกิดฟองอากาศภายในบ่อ ส่วนระบบกรองนั้นก็เป็นกรองข้างบ่อซึ่งมีขนาดใหญ่มาก (ตามมาตราฐานบ่อปลาคาร์พ) แต่ต่อให้ใหญ่ขนาดไหนก็ตามถ้าต้องมาตั้งประชันกับแสงแดดทั้งวันแบบนี้ยังไงก็ต้อง “เขียว” แน่ๆ ครับ บ่อที่นำมาเลี้ยงปลามังกรมีขนาดยาวประมาณ 10 เมตร กว้าง 5 เมตร และสูงถึง 3 เมตร (แต่เติมน้ำเพียง 1 เมตร) นับว่าค่อนข้างใหญ่นะครับ เมื่อสังเกตเห็นว่าปลาปลามีทีท่านหิวอยากกินอาหาร Vincent จึงหยิบสวิงใหญ่ที่อยู่ข้างๆ บ่อแล้วเดินหายไป กลับมาอีกทีก็มี Bull Frogs อยู่เติมสวิง แล้วส่งเรียกพวกผมให้ดูพร้อมตะโกนว่า “Enjoy The Meal Time” ก่อนโยนอาหารเหล่านั้นให้ปลากิน เพื่อนๆ ครับ Bull Frogs ที่ Vincent เอามาให้ปลากินนั้นมีขนาดใหญ่มากๆ (ผมว่าใหญ่กว่าที่เห็นในฟาร์ม Panda อีก) ถ้าเป็นนักเลี้ยงในบ้านเราคงไม่กล้าให้กินแน่ๆ กลัวจะติดคอตาย แต่ปลาที่นี่กลับกระโจนกินกันอย่างรุนแรง ดูแล้วคงจะเอร็ดอร่อยกันมาก
NOTE : อาหารปลาที่นิยมใช้กันในสิงคโปร์ก็มีอยู่ 3 อย่างคือ “หนอนยักษ์” (Super Worm) กบวัว (Bull Frog) และ เนื้อกุ้งตาย (Market Prawn) อย่างใน Max Koi Farm นี่ก็เช่นกัน ผมเห็นใช้หนอกยักษ์อยู่ตั้งแต่ในห้องของ Show Room แล้ว แต่ไม่พบเห็นหนอนนก กุ้งฝอย หรือพวกจิ้งหรีด ต่างกับบ้านเรามากเลยนะครับ
6. ทองมาเลย์ตัวนี้ช่างมีสีสรรสวยนัก… อยากได้จังแต่ตังค์ไม่ถึง
7. บ่อปลาแดงครับ แต่ไม่เห็นปลาเพราะน้ำเขียวปี๋เลย
เนื่องจาก Max Koi Farm ไม่ใช่ฟาร์มปลามังกรโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีปลาให้ดูชมไม่มากนัก ก่อนออกจากฟาร์ม Vincent พาไปดูปลาแดงใหญ่อีกตัวที่ได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนั้น โดยบอกว่าปลาตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในปลาใหญ่ที่อยู่บ่อปลาแดงนั้น ภายในห้องค่อนข้างมืดมากๆ เข้าไปแล้วมองไม่เห็นหน้าใครเลยครับ (ขนาดพี่ต๊ะ พี่บีและคุณอ้น ที่มีผิวขาวนวลน่าสัมผัส เมื่อเข้าไปแล้วยังมองหน้ากันไม่เห็นเลย 5555)
และปลาตัวที่ว่านั้นอยู่เปล่าเปลี่ยวโดดเดี่ยวตามลำพังภายใต้แสงไฟริบหรี่เพียงหลอดเดียว บรรยากาศน่ากลัวเหลือทน มืดก็มืด วังเวงก็วังเวง คนอื่นเดินออกไปหมดแล้ว เหลือผมกับตัวปลากันสองต่อสองในขณะที่ผมพยายามถ่ายภาพให้ได้ โอมเพี้ยง ! วอนคุณพระช่วย ขอให้อย่าได้เกิดเหตุการณ์ Shutter ในกล้องผมนะครับ… บรื๋อส์ยยยยย ~~!! … เมื่อได้ภาพแล้วผมก็ออกมาพบกับเพื่อนๆ ที่รออยู่ข้างนอก ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะไปยังฟาร์มกันต่อแล้วล่ะครับ และเป้าหมายต่อไปก็คือฟาร์ม Dream Fish
Nanconnection
8. ภาพนี้ Vincent กำลังโยน “กบวัว” ให้ปลาแดงใหญ่กิน น่าตื่นเต้นอย่างแรง
9. Shutter กดติดปลาแดง !