ผมเคยบอกเพื่อนสมาชิกทราบอยู่หลายครั้งว่า ปัจจุบัน Nanconnection ไม่ได้รับงานศัลยกรรมแล้ว ซึ่งไม่ใช่หยิ่ง ไม่ใช่เบื่อ และไม่ใช่กลัวพลาด แต่เพราะทุกวันนี้ผมกลับมาทำงานประจำแล้ว ทำให้ไม่ได้มีเวลามากเหมือนก่อน จะมีก็แค่วันเสาร์วันเดียวเท่านั้น (วันอาทิตย์ก็ให้ครอบครัว… ก็ แต่งงานแล้วนี่นะ อิอิ ) แต่วันเสาร์ ผมก็มีงานที่จะต้องไปสวนจตุจักร ถ่ายรูปปลา และเยี่ยมเยียน Sponsor ผู้สนับสนุนเวบไซท์ของเรา กว่าจะเสร็จธุระกลับมาก็เหนื่อย จนแทบไม่มีแรงทำอะไรแล้ว แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของสุขภาพ เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้แข็งแรงเหมือนก่อน (อวบอั๋นขึ้น จนขยับแขน ขยับขา ขยับอวัยวะ ทำอะไรไม่ได้ค่อยถนัด )
จะยก จะอุ้ม อะไรก็ทำไม่ได้ ปวดหลัง และล้าทุกๆ ครั้ง ก็เลยบอกตัวเองว่า เลิกทำเถอะ ส่วนใหญ่เจอแต่ปลาใหญ่ และมีราคาแพง ทำทุกๆ ครั้งก็ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ… ทำพลาดไป สันหลังพังไป จะไม่คุ้มกัน ดังนั้นด้วยเหตุผลนี้ จึงมีหลายๆ ท่านที่ผมปฏิเสธไป ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง
จะมีเหลือก็เพียงลูกค้าเก่า และเพื่อนสนิทเท่านั้น ที่จะยังพอทำให้ได้อยู่ อย่างเช่นคุณกอล์ฟ ที่ผมจะเล่าเรื่องราวให้เพื่อนสมาชิกฟังต่อไปนี้… คุณกอล์ฟเป็นรุ่นน้องของผมคนหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสรู้จักกันนานแล้ว ที่บ้านของคุณกอล์ฟมีปลาตัวหนึ่ง เป็น RTG หรือ ทองอินโด (ที่หลายๆ ท่านเข้าใจไปว่าเป็น Blue Base Cross Back เล่นเอาเจ้าของปลายิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ด้วยความภาคภูมิใจ) ที่อยู่ด้วยกันมานานเกือบ 5 ปี ปลาตัวนี้ถ้าผมจำไม่ผิด เป็นปลาจากฟาร์มกิมกัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตอนนั้นได้มาจากฟาร์ม Grand Aquarium… แต่เมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 2 ปีเศษ ปลาตัวนี้ก็มีอาการเหงือกพับ และเป็นขั้นที่รักษาเองไม่ได้ จึงต้องรับการศัลยกรรม ดังนั้นครั้งหนึ่งแล้ว ที่ผมได้มีโอกาศทำศัลยกรรมเหงือกเจ้ายักษ์ใหญ่ตัวนี้
หลังจากหายดีครั้งนั้นแล้ว ผมก็คุณกอล์ฟก็ห่างหายกันไป ต่างคนต่างทำงาน ผมก็ทำงาน (เป็นลูกจ้าง) กอล์ฟก็ทำงาน (เป็นเถ้าแก่) ไม่ค่อยได้คุยกันมากเท่าไหร่ จะมีบ้างที่นานๆ จะได้ยินเสียงซักครั้ง… อยู่มาวันหนึ่ง ผมได้รับสายของกอล์ฟ
"สวัสดีครับ พี่แนนค กอล์ฟเอง จำได้รึเปล่าครับ ?"
"จำได้ครับ กอล์ฟ ว่าไงเอ่ย ?"
"พี่แนนครับ กอล์ฟมีเรื่องให้พี่แนนช่วย คือปลากอล์ฟมีปัญหาอีกครั้งแล้ว เหงือกมันพับ และอยากให้พี่แนนไปตัดให้ครับ"
"ตัวเดิมรึเปล่า ?"
"ใช่ครับ RTG ตัวเดิม แต่ตอนนี้ตัวใหญ่มากแล้ว ประมาณ 22-23 นิ้วได้ พี่แนนช่วยกอล็ฟได้รึเปล่าครับ ?"
"ได้ครับ พี่แนนยินดีอยู่แล้ว"
"แต่ว่าครั้งนี้จะยากหน่อยครับพี่แนน"
"ทำไมล่ะ ?"
"พอดีว่า กอล์ฟจะทำบ้านใหม่ ตอนนี้มีกิจการแล้ว จะย้ายตู้ + ปลาไปอยู่ที่นั้น แต่ไม่ไกลครับพี่แนน แค่ 300 เมตร จากที่นี่เท่านั้นเอง"
"เหรอ คือยังไงนะครับ บอกให้พี่แนนชัดเจนหน่อย"
"คือว่า พี่แนนต้องช่วยตัดเหงือกปลาของกอล์ฟ จากนั้นก็ให้ย้ายตู้ปลาไปที่บ้านใหม่ ตั้งตู้ให้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ปล่อยปลาลงตู้ แค่นี่ก็เรียบร้อยครับ"
"เฮ้ยยยยยยย ~~!! มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นนะ สรุปว่าพี่แนนต้องทำศัลยกรรมไปด้วย และย้ายตู้ไปด้วยหรือ ?"
"แม่นแล้วครับ"
แล้วผมก็อธิบายให้คุณกอล์ฟฟังว่าเรื่องราวต่างๆ มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เราต้องทำศัลยกรรมปลา ในขณะที่ก็ต้องย้ายตู้จากบ้านเก่าไปบ้านใหม่ และปลาก็ต้องฟื้นตัวในน้ำใหม่ 100% จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการเตรียมการที่ดี ไม่เช่นนั้นความผิดพลาดก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา… ผมถามคุณกอล์ฟต่อว่า
"พี่แนนจำตู้ของกอล์ฟไม่ได้แล้ว ขนาดเท่าไหร่นะครับ ?"
"ขนาด 60 30 24 ครับ กระจก็ 4 หุนครับพี่แนน
"แล้วกลอ์ฟจะให้ใครย้ายตู้ปลาให้"
"อ๋อ กอล์ฟมีเพื่อนครับ เดี๋ยวเขามาช่วยจัดการให้"
"อืม ดีแล้ว แต่ขอให้มั่นใจหน่อยนะว่าเป็นมืออาชีพ เพราะของพวกนี้ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพ ที่เป็นงานจริงๆ ทำ ไม่ใช่มีแต่แรงจะทำได้"
"ครับพี่ มันขนาดนั้นเลยเหรอครับ ? พอดีเพื่อนกอล์ฟเป็นช่างที่มาทำร้านใหม่ให้ ก็ไม่แน่ใจว่าพอจะยกได้รึเปล่า ?"
"ก็ลองดูแล้วกัน พี่แนนเตือนไว้เพื่อความหวังดี หน้าที่พี่แนนงานนี้คือแค่ทำศัลยกรรมปลาให้กอล์ฟโดยปลอดภัยครับ"
"ครับพี่แนน ขอบคุณมากครับ แต่พี่แนนครับ แล้วถ้าผมจ้างร้านตู้ปลาย้ายตู้ เขาจะคิดเท่าไหร่ครับ ?"
"พี่แนนไม่แน่ใจว่า และจำไม่ได้แล้วว่า กอล์ฟสั่งตู้ร้านใคร ?"
"สั่งร้านโยตู้ปลาครับ ตอนนั้นพี่แนนก็ดูแลงานให้" (บอกตามตรงว่าจำไม่ได้ แหะ แหะ เพราะนานเกือบ 3 ปีแล้ว)
"งั๊นพี่แนนจะโทรถามร้านพี่โยให้นะครับ แล้วพี่แนนจะติดต่อกลับไป"
"ครับพี่ ขอบคุณครับพี่ กอล์ฟรอคำตอบอยู่นะครับ"
หลังจากวางสาย ผมก็โทรสอบถามไปยังร้านโยตู้ปลา ซึ่งก็ได้รับคำตอบโดยสรุปว่า หากเป็นตู้ร้านอื่น และต้องการให้ร้านโยตู้ปลาย้ายให้ มีค่าบริการฟุตละ 900 บาท แต่หากเป็นตู้ของร้านโยเอง มีค่าบริการย้ายในอัตราฟุตละ 500 บาท (ตัวอย่างเช่น ตู้ปลาขนาด 60 นิ้ว ก็คือ 5 ฟุต หากเป็นตู้ปลาจากร้านอื่น มีค่าย้าย 900 x 5 = 4,500 บาท แต่หากเป็นตู้ของร้านโยเอง จะมีค่าย้าย 500 x 5 = 2,500 บาท) โดยทั้ง 2 กรณีนี้ขอให้ทราบว่า เป็นอัตราการบริการภายในกรุงเทพ และรวมถึงความรับผิดชอบต่อตัวตู้ กรณีได้รับความเสียหายระหว่างการโยกย้าย
หลังจากได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็โทรแจ้งให้คุณกอล์ฟทราบ… เมื่อพินิจพิจารณา ชั่งน้ำหนักเหตุผล และความคุ้มค่า ความปลอดภัยแล้ว คุณกอล์ฟก็ตัดสินใจเสียน้อย เพื่อความปลอดภัยของตัวบ้าน ตู้ปลา และตัวปลา ด้วยการให้ร้านตู้ปลามืออาชีพจัดการให้จะดีกว่า สบายใจกว่ามาก ดังนั้นเมื่อตัดสินใจแบบนั้นแล้ว ผมจึงวาง Plan ในการทำงานโดยเริ่มต้นด้วยน้ดหมายพี่โยให้จัดทีมงานย้ายตู้ปลาให้ และผมก็จัดเวลาตัวเอง พร้อมเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เพื่อทำงานใหญ่นี้ให้สำเร็จลุล่วง แต่ขั้นตอนจะเป็นยังไง ? เรื่องราวจะเป็นแบบไหน ขอให้ติดตามกันอีกครั้งในตอนหน้านะครับ สำหรับวันนี้ Bye ก่อน เข้างานแล้ว เดี๋ยวที่ทำงานอัดเอา อิอิ
Nanconnection