http://www.aro4u.com/articles-detail/434
ต่อจากตอนนี้นะครับ
ตามที่ได้กล่าวไปว่าผมมี Plan การจับปลาตัวนี้กลับบ้าน และคาดว่าน่าจะจับได้ไม่ยากเพราะปลามีอาการป่วยอยู่ แต่ใช่ว่าปลาป่วยจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้น ? ไม่ใช่เลย เพราะด้วยตัวตู้ที่มีขนาดใหญ่ เราเองก็ตัวนิดเดียวกว่าจะจับได้ก็เล่นเอาเหนื่อยมากๆ ครับ ต้องใช้หลายคนช่วย และเริ่มต้นที่ดูเหมือนว่าปลาป่วยจะทำตัวนิ่งๆ ไม่ขัดขืน ดิ้นรน แต่ในความเป็นจริงก็กลับกัน พอเปิดฝาจะต้อนเข้าถุงหน่อย จากปลานิ่งๆ จอดอยู่กับที่นี่กลายมาเป็นว่ายพร่าน หนีเต็มที่ ไม่ได้ให้ความร่วมมือแม้แต่น้อย กว่าจะจับได้เล่นเอาเหนื่อย แถมต้อนจับได้แล้วยังมีขัดขืนด้วย ดิ้นเสียจนถุงเกือบแตก โชคดีเป็นถุงที่เตรียมไว้อย่างดี ประกอบกับเตรียมไว้ 2 ชั้น จึงไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
เมื่อจับได้แล้ว ผมก็ใส่ยาสลบตามปริมาณที่เตรียมไว้ (ใช้วิธีผสมน้ำเลี้ยงภายในตู้เพื่อลดความรุนแรงของตัวยากับตัวปลาโดยตรง) ใส่ยาสลบเรียบร้อยแล้วก็รอเวลาเสียหน่อย ประมาณ 5 นาทีเดี๋ยวค่อยยกออกจากตู้ เพราะตอนนี้ปลายังได้สติอยู่ เดี๋ยวหากอุ้มขึ้นปลาแล้วปลาตกใจ พรุ่งสุดตัวอาจะทำให้ถุงแตกและปลาตกลงมากระแทกบาดเจ็บมากขึ้นก็เป็นได้… ผ่านไปจนผมมั่นใจว่าตอนนี้ปลาเริ่มอ่อนแรงลง ก็บอกให้คุณเก่งช่วยเรียกเพื่อนที่รูปร่างใหญ่ที่สุดมาช่วยอุ้มขึ้นไป (ยอมรับว่าอุ้มไม่ไหว ปลาใหญ่ น้ำเยอะ ถุงหนักมาก) ส่วนผมลงไปเตรียมระบบการให้อากาศ และการ Pack เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
หลังจาก Pack เสร็จแล้ว ในขณะที่จะอุ้มขึ้นรถ สงสัยว่าตัวปลาจะมีอาการอ่อนแรง เลยทำให้เหมือจะเอียงๆ หงายๆ ซึ่งถ้าสถานที่อยู่ไม่ไกลมาก ผมจะไม่ซีเรียส แต่นี่อยู่ไกล ดังนั้นขอแก้ไขก่อนจะดีกว่า ผมลดน้ำในถุงลงแล้วเติมน้ำใหม่เข้าไป ไม่นานนักปลาก็ตั้งตัวได้เหมือนเดิม (แต่ไม่ใส่ยาสลบเพิ่มนะครับ เดี๋ยวจะโดน 2 เด้ง ปลาจะแย่มากกว่านี้) มั่นใจว่ารอบนี้ OK แล้วก็ทำการ Pack จากนั้นก็ให้เพื่อนคุณเก่ง ช่วยกันยกกล่องไปไว้ที่หลังรถแล้วก็ขอตัวลาคุณเก่งทันที… งานนี้ไม่มีสังสรรค์ครับ ต้องรีบกลับเพราะยังมีอีกหลายอย่างต้องทำหลังจากรับปลาตัวนี้กลับมารักษาแล้ว ในกระทู้นี้ก็ขอขอบคุณๆ เก่งอีกครั้ง ที่แม้จะไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ยังเตรียม "โรตีสายไหม" ของอร่อยเมืองอยุธยามาฝากผมและครอบครัว ขอบคุณมากครับ
… ปกติวันอาทิตย์ไม่น่าจะเป็นวันที่รถติดนะครับ แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่ารถติดมากมาย ขาไปเดินทางใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ขากลับแค่ 120 กม. ผมกลับใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเศษ (ไปโดนเส้นดอนเมืองเข้าให้ เกือบแย่เหมือนกัน) มาถึงที่บ้านไม่รอช้า เรียกภรรยา เรียกน้อง มาช่วยกันเปิดประตูยกปลาเข้าบ้าน (เป็นไงครับ เป็นที่พึ่งซึ่งกันและกันได้ดีเลยทีเดียว 5555) จากนั้นผมก็ดำเนินการตามนี้…
1. พักปลาไว้ในกล่อง เพื่อรอการทำความสะอาดตู้
2. ตู้ที่ผมเตรียมไว้เป็นขนาด 36 นิ้ว (ตัวปลามีขนาดประมาณ 18 นิ้ว) เหตุผลที่ใช้ตู้เล็กก็เพื่อหวังผลในการรักษา => ง่ายต่อการคำนวนปริมาณยา ง่ายต่อการเปลี่ยนถ่ายน้ำ
3. ล้างทำความสะอาดตู้เหมือนลงปลาใหม่ จากนั้นเติมน้ำเข้ามา 1/3 ของตู้ โดยในน้ำจากตู้ของเจ้าเรือนทอง (เพื่อความปลอดภัย เพราะหากใช้น้ำใหม่ อาจจะเกิดอันตรายปลาช๊อคน้ำได้)
4. นำปลาลงปรับสภาพน้ำเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ปรับอุหณภูมิได้อย่างปลอดภัยที่สุด
… เมื่อเสร็จทุกขั้นตอน + กับเวลาที่เหมาะสม ผมก็ทำการปล่อยปลา ตอนที่ปล่อย ผมปล่อยเฉพาะตัวปลานะครับไม่ได้เอาน้ำลงไปด้วย เพราะในนั้นมียาสลบอยู่ ซึ่งหากใส่ไปด้วยเกิดมีผลต่อเนื่องกับตัวปลาจะทำให้แย่ไปใหญ่ เมื่อปลาออกมาจากถุงแล้วก็เริ่มว่ายน้ำ แต่ทว่าผมสังเกตเห็นความผิดปกติได้อย่างหนึ่งก็คือ ปลายังเสียศูนย์อยู่ คือปรับตัวไม่ได้ ว่ายน้ำหัวทิ่ม หางชี้ ผมเองไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพราะอาจจะเป็นไปได้กับปลาที่ไม่สบาย และโดนยาสลบระหว่างการเดินทาง ดังนั้นที่เติมน้ำไว้ 1/3 จึงต้องลดลงอีก เหลือเพียง ¼ เพื่อให้ตัวปลาว่ายน้ำได้สบายดขึ้น (ลดการว่ายน้ำทิ่มลง) จากนั้นก็ทำการใส่ เกลือเม็ด และ ยาแก้อักเสบ Amoxy ยี่ห้อ Bencard ที่ผมใช้อยู่ประจำ
… นั่งดูเขาพักหนึ่ง ก็โทรแจ้งคุณเก่ง พร้อมเก็บภาพไปให้เจ้าของปลาได้ชมด้วย วันนี้เหนื่อยแล้ว ขอพักก่อน (พรุ่งนี้ยังต้องมีงานต่อ การรักษาปลาตัวนี้ยังต้องเปลี่ยนน้ำทุกวัน)… กว่าจะจบวันเล่นเอาเหนื่อย และหมดแรง ณ วันนั้นยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ทำไปมีหวังแค่ไหน เพราะปลายังคงบอบช้ำ บอกแล้วจะเชื่อมั้ยครับว่า นอกจากตัวดำเป็นอักขระแบบนี้แล้ว ตอนปล่อยปลาน้ำในถุงยังมีสีชมพูแดง แปลว่ามีเลือดออก… ลงปลาใหม่ ก็เห็นชัดว่าปากแตก มีเลือดซึมด้วย ต้องยอมรับตามตรงว่าที่สุดแห่งความหนักใจจริงๆ … แม้ในใจก็เผื่อใจไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังสู้ไหว และจะสู้ตายเพื่อการรักษาครั้งนี้ ยังไงต้องติดตามกันตอนต่อไปในสัปดาห์หน้านะครับ
Nanconnection