… Visit Serpong Mas …
หลังจากดู Stock ปลาของคุณ Sriyadi แล้ว เราก็ไปทานข้าวกลางวันกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นก๋วยเตี๋ยวครับ ร้านใหญ่โตดี แต่คนน้อยเหลือเกิน สงสัยเพราะอากาศร้อนเลยอาจจะทานไม่ค่อยอร่อยกัน (อากาสก็ร้อน อาหารก็ร้อน คงไม่ดีแน่) ผมสั่งเส้นหมี่ไก่มาชามหนึ่ง มีเกี๊ยวกรอบแนบมาด้วย แต่โอ้โห ! เพิ่งรู้ว่าเกี๊ยวกรอบของอินโดใหญ่กว่าเมืองไทย 10 เท่า ใหญ่สุดๆ ไปเลย !! (แต่บอกตามตรงว่ารสชาดไม่ค่อยถูกปากนัก… ไม่เป็นไร เอาแค่กันหิวก็พอแล้ว) เติมกำลังเสร็จแล้วจึงค่อยเดินทางไปสถานที่ต่อไป ซึ่งนั่นก็คือร้านปลาร้านใหญ่ Serpong Mas Arwana (Painting Aro Pro Shop)
NOTE : ขออภัยอีกครั้งที่ผมจำชื่อสถานที่ไมได้ เพราะชื่อยาว ไม่คุ้นเคย และไม่ใช่ภาษาของเรา อีกอย่างก็เดินทางไป คุยไป คนนั้นที คนนี้ที เลยไม่ได้จดเก็บไว้ เที่ยวอย่างเดียว แหะ แหะ แล้วก็อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วนะครับ ร้านปลาแต่ละร้านใน Indonesia อยู่ไกลกันเหลือเกิน อย่าง Stock ปลาของคุณ Sriyadi มาที่ร้าน Serpong Mas นี่ก็วิ่งรถกันเกือบชั่วโมง ไม่เหมือนตลาดซันเดย์ จตุจักรบ้านเรา ไปทีเดียว เดินชมได้ครบทุกร้าน)
ร้านปลาร้านนี้มีการจัดแต่งรูปแบบร้านอย่างเรียบง่าย (เอกลักษณ์พิเศษของร้านก็คือ ที่กำแพงหน้าร้านชั้น 2 มีภาพวาดปลามังกรแดงด้วย เข้าท่าดีเหมือนกันครับ) วัสดุอุปกรณ์ภายในร้านใช้ของคุณภาพดี ส่วนกลางของด้านในมีโต๊ะรับแขกไว้สำหรับให้ลูกค้า ผู้มาเยือนได้มีโอกาสพูดคุยกัน ดื่มน้ำชา กาแฟ นั่งพิจารณาดูปลาไป ตู้ปลามี 2 ด้านครับ ซ้ายกับขวา เรียงกันเป็นแนวยาวลึกเข้าไปด้านใน แต่ละด้านมี 3 ชั้น และเกือบทุกใบไม่มีหลอดไฟด้านบน (ยกเว้นไฟเพดาน) แต่ใช้โคมไฟส่องหน้าตู้แทน เป็นแบบนี้กันหมดครับ ตั้งแต่ที่ Tanta Place แล้ว เข้าใจว่าเป็นเทคนิคการเลือกดูปลาในแบบของเขา
ดูสภาพแวดล้อมโดยรวมภายในร้านกันแล้ว ต่อไปมาดู “ทีเด็ด” ปลาสวยแต่ละตัวบ้างดีกว่าครับ และแน่นอนว่าผมต้องเลือกถ่ายมาแต่เฉพาะตัวสวยๆ มาฝากเพื่อนเพื่อนสมาชิก Aro4u เริ่มต้นกันที่ตัวแรกเลย ปลาแดง Short Body กึ่ง King Arowana ตัวนี้ แปลกดีเหมือนกัน แม้ส่วนตัวจะไม่ค่อยปลาลักษณะเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสวยมาก ทั้งหุ่นทรง และสีสัน เกล็ดตัดขอบหนาสีแดงหมดทั้งตัว สภาพโดยรวมก็สมบูรณ์ดี ตาถือว่าไม่ตกมาก ฝังเบ้าไปแล้ว (ไม่น่าจะหนักไปกว่านี้) ปากก็ OK ไม่ได้ยื่นเกยเกินไป จนดูไม่ดี (สีปลาอาจจะดูแดงฉ่ำเกินจริง นั่นเพราะเป็นผลจากหลอดไฟนะครับ ผมพยายามถ่ายให้เหมือนกับสภาพจริงที่สุดแล้ว แต่ยอมรับเลย วันนี้ ถ่ายรูปปลาเหนื่อยมาก ลุยกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น) แล้วเวลาที่เจ้านี่อยู่ตำแหน่งภายใต้แสงไฟพอดีๆ จะเห็นเนื้อตัวเป็นสีม่วงขอบแดงสวยเชียว
ขณะที่ผมกำลังเก็บภาพเจ้าคิงแดงอยู่นั้น อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้อง "เจ้านายยยยย !! หิวแล้วแล้ววววววววว ~~!!!" จึงมองหาที่มาของเสียง อ้อ ! ที่แท้ก็ปลาแดงตัวนี้นี่เอง… เมื่อพิจารณาสีสันและหุ่นทรงแล้ว ปลาแดงตัวนี้ถือเป็นอีกตัวที่จัดว่าสวยมากในร้านนี้ สมบูรณ์ ไม่มีตำหนิอะไรเลย ตาไม่ตก ปากไม่ยื่น สีดี หุ่นแจ๋ว ฟอร์มแจ่ม ส่วนเรื่องราคา ไม่กล้าถาม (เกรงว่าจะผิดมารยาท และพวกปลาใหญ่โดยปกติก็จะไม่มีราคาติดไว้ ต้องสอบถามกันเป็นตัวๆ ไป) ร้านนี้เน้นจำหน่ายปลาใหญ่เป็นหลัก กะคร่าวๆ ตัวหนึ่งก็คงจะหลายสิบล้าน (รูเปีย) หรือ ว่ากันที่หลักแสน (บาท) ในบ้านเรา
มาที่นี่ ทำได้ก็เพียงแค่เก็บภาพปลาสวยๆ แล้วก็เอาเรื่องราวกลับไปฝาก แต่จะเอาปลากลับไปด้วย เรื่องใหญ่ ครับ ทำยากลำบาก แล้วยิ่งซื้อกันน้อยๆ ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฏหมาย นี่ไม่ต้องพูดเลย ยากสุดๆ โดนจับทีหนึ่งก็เป็นเรื่อง โดยปกติแล้วไม่มีใครเอาด้วยแน่ ผมล่ะคนหนึ่งล่ะ (จริงๆ ปลาตัวเล็กๆ ยังพอซุกหลีบ ซอก ซอย ตรงนั้นตรงนี้ได้ แต่ถ้าใหญ่แบบนี้คงจะปกปิดลำบากหน่อย) เอาล่ะครับ มาดูปลาตัวต่อไปกันดีกว่า ยังคงเป็นปลาสายพิเศษอยู่นั่นก็คือ Red King หรือ มังกรคิงแดง แต่ตัวนี้มีความพิเศษมากกว่าตัวอื่นตรงที่ “หนวดยาว” ไม่ธรรมดา ยาวเกือบนิ้วเลยทีเดียว (สงสัยคงเคยจะอยู่ในถัง หรือผ่านการเลี้ยงบ่อมา ลำพังเลี้ยงในตู้คงไม่ได้ยาวแบบนี้แน่) โดยรวมแล้วคิงแดงตัวนี้ถือว่าสมบูรณ์มากเช่นกัน ไม่มีตำหนิอะไร หุ่นก็สวยสมส่วน ว่ายน้ำก็ดี ฟอร์มสง่างาม (บ้านเราเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยให้ความนิยมปลาพวกนี้เท่าไหร่ แต่ที่นี่ ปลาลักษณะนี้ยังคงเป็นที่นิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แล้วก็คงจะต่อๆ ไปอีกยาวนาน)
เช่นกันครับ ราคาปลาไม่ทราบเลย คงต้องว่ากันเป็นตัวๆ ไป อีกอย่างที่นี่ก็เป็นร้านค้าและเน้นขายปลีก ดังนั้นราคาคงต้องสูงกว่าที่ฟาร์ม หรือ Trader ที่เราไปเยือนก่อนหน้าเป็นแน่ ตัวอย่างเช่น ปลาแดงเล็กๆ ตัวหนึ่งภายในร้านเห็นติดป้ายกันที่ 10 กว่าล้านรูเปีย หรือแปลงเป็น US ดอลล่าห์ ก็ตกอยู่ที่ 1,200 – 1,300 เหรียญ ในขณะที่สถานที่ก่อนหน้า เห็นว่า 800 – 1,000 เหรียญเท่านั้นเอง (กรณีซื้อกลับเมืองไทย ต้องมาเจอค่าเอกสาร ค่าภาษี ค่าเดินทาง นั่นนี่อีก ดูตัวเลขแล้วคงต้องอาเจียนเป็นเลือดแน่ครับ กลับมาซื้อเมืองไทยดีกว่ากระมัง)
เอาล่ะครับ สัปดาห์นี้ผมก็พาเพื่อนสมาชิกเที่ยวกันมายาวแล้ว แต่เรื่องราวของการเดินทางครั้งนี้คงไม่จบนะครับ นี่แค่เพียง “วันแรก” เท่านั้นเอง ในสัปดาห์หน้าจะเป็นการเดินทางในวันที่ 2 ซึ่งก็มีทีเด็ดหลายอย่างเลย ไม่ว่าการดูปลาที่ร้านของ NiWan ผู้โด่งดัง (ทัวร์ทุกซอกทุกมุมทั้ง 4 ชั้น) และเที่ยวบ้านคุณ Yong Ki มหาเศรษฐีผู้มีปลามังกรชั้นดีในครอบครองกว่า 200 ตัว ตามต่อด้วยไปดู “จตุจักรอินโดนีเซีย” ก่อนปิดท้ายด้วยการชมร้านปลาอีกร้าน ในห้างหรูใจกลางเมือง A Hui Place อย่าลืมติดตามชมกันให้ได้นะครับ ส่วนวันนี้ขอลากันด้วยภาพที่ถ่ายร่วมกับเจ้าของร้าน Mr. Suryadi (ที่อยู่ลำดับที่ 4 จากซ้าย)
NOTE : เจ้าของ PT.Arwana Citra Ikan Hias Indonesia ชื่อคุณ Sriyadi นะครับ ส่วนเจ้าของร้านปลา Serpong Mas Arwana ชื่อคุณ Suryadi ครับ (ชื่อคล้ายกันจริงๆ ผมเกือบสับสันเหมือนกัน)